Book,Page,LineNumber,Text
50,0045,001,เมื่อไม่ได้เสนาสนะ ก็ยังเวลาให้ผ่านไปในอัพโภกาส (กลางแจ้ง) ด้วยอานุภาพ
50,0045,002,ของพระเถระ ฝนไม่ตกเลย.
50,0045,003,มนุษย์ทั้งหลาย ถูกภาวะฝนแล้ง บีบคั้น คุกคาม จึงพากันไปทำการ
50,0045,004,ร้องทุกข์ ที่ประตูวังของพระราชา พระราชาทรงใคร่ครวญดูว่า ด้วยเหตุไร
50,0045,005,หนอแล ฝนจึงไม่ตก แล้วทรงพระดำริว่า ชะรอยพระเถระจะอยู่กลางแจ้ง
50,0045,006,ฝนจึงไม่ตก แล้วรับสั่งให้สร้างกุฎีมุงด้วยใบไม้ถวายพระเถระ แล้วรับสั่งว่า
50,0045,007,""" ท่านผู้เจริญ นิมนต์ท่านอยู่ในบรรณกุฎี นี้แหละ"" ไหว้แล้ว เสด็จหลีกไป. "
50,0045,008,พระเถระ เข้าไปสู่กุฎี แล้วนั่งขัดสมาธิบนอาสนะที่ปูลาดด้วยหญ้า.
50,0045,009,ก็ในครั้งนั้น ฝนหยาดเม็ดลงมาเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ยังสายธารให้ชุ่มชื่นทั่วถึง.
50,0045,010,ลำดับนั้น พระเถระประสงค์จะบำบัดภัยอันเกิดแต่ฝนแล้ง แก่ชาวโลก
50,0045,011,จึงประกาศความไม่มีอันตราย ที่เป็นวัตถุภายในและภายนอกของตน จึงกล่าว
50,0045,012,คาถาว่า
50,0045,013,กระท่อของเรามุงแล้ว สะดวกสบายปราศจาก
50,0045,014,ลม ดูก่อนฝน ท่านจงตกตามสบายเถิด จิตของเรา
50,0045,015,ตั้งมั่นแล้ว หลุดพ้นแล้ว เรามีความเพียรเครื่องเผา-
50,0045,016,กิเลสอยู่ ดูก่อนฝน ท่านจงตกเถิด ดังนี้.
50,0045,017,ฉนฺน ศัพท์ในคาถานั้น มาแล้วในความเหมาะสม ดังในประโยค
50,0045,018,มีอาทิว่า เด็กหญิงคนนั้น เหมาะสมกับเด็กชายคนนี้ และดังประโยคมีอาทิว่า
50,0045,019,ไม่เหมาะสม (คือ) ไม่สมควร. มาแล้วในสังขยาพิเศษ ที่ทำถ้อยคำให้
50,0045,020,สละสลวย ดังในประโยคมีอาทิว่า ฉนฺนํ เตฺวว ผคฺคุณผสฺสายตนานํ.
50,0045,021,มาแล้วในความว่ายึดถือ ดังในประโยคมีอาทิว่า ฝน คือ กิเสสย่อมรั่วรดผู้ที่
50,0045,022,ยึดถือ ย่อมไม่รั่วรด ผู้ปราศจากกิเลส. มาในความว่า นุ่งห่มดังในประโยค