Book,Page,LineNumber,Text 49,0032,001,ครั้นในวันที่สอง พระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมด้วยภิกษุ ๕๐๐ รูป 49,0032,002,เสด็จไปยังเรือนของท่านเศรษฐี เสวยพระกระยาหารแล้ว เมื่อจะ 49,0032,003,ทำอนุโมทนา จึงได้ภาษิตพระคาถาเหล่านี้ว่า :- 49,0032,004,บุคคลผู้ไม่ตระหนี่ ควรทำเหตุอย่างใด 49,0032,005,อย่างหนึ่ง คือ ปรารภถึงบุรพเปตชน เทวดาผู้สิง 49,0032,006,อยู่ในเรือน หรือท้าวมหาราชทั้ง ๔ ผู้รักษาโลก 49,0032,007,ผู้มียศ คือท้าว ธตรฐ ๑ วิรุฬหก ๑ วิรูปักษ์ ๑ 49,0032,008,และท้าวกุเวร ๑ ให้เป็นอารมณ์แล้วพึงให้ทาน 49,0032,009,ท่านเหล่านั้นเป็นผู้อันบุคคลบูชาแล้ว ทั้งทายก 49,0032,010,ก็ไม่ไร้ผล ความร้องไห้ ความเศร้าโศกหรือความ 49,0032,011,ร่ำไห้อย่างอื่น ไม่ควรทำเลย เพราะความร้องไห้ 49,0032,012,เป็นต้นนั้น ไม่เป็นประโยชน์แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว 49,0032,013,ญาติทั้งหลาย คงตั้งอยู่ตามธรรมดาของตน ๆ 49,0032,014,อันทักษิณาทานนี้ ที่ท่านเข้าไปตั้งไว้ดีแล้วใน 49,0032,015,พระสงฆ์ให้แล้ว ย่อมสำเร็จประโยชน์ โดย 49,0032,016,ฉับพลัน แก่บุรพเปตชนนั้น สิ้นกาลนาน. 49,0032,017,บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ยงฺกิญฺจารมฺมณํ กตฺวา ความว่า 49,0032,018,ปรารภ คือ อุทิศ เหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง ในบรรดาเหตุมีเหตุที่เป็น 49,0032,019,มงคลเป็นต้น. บทว่า ทชฺชา แปลว่า พึงให้. บทว่า อมจฺฉรี ความว่า 49,0032,020,ชื่อว่า อมัจฉรี เพราะไม่มีความตระหนี่ อันมีลักษณะไม่อดทน 49,0032,021,"ต่อสมบัติของตนที่ทั่วไปกับผู้อื่น, อธิบายว่า ผู้มีปกติบริจาค ทำ"