Book,Page,LineNumber,Text 49,0014,001,พึงเห็นเจตนาเครื่องบริจาค ซึ่งมีไทยธรรมวัตถุเป็นอารมณ์นั่นแหละ 49,0014,002,ว่าเป็นพืช โดยอ้างถึงไทยธรรม. จริงอยู่ เจตนาเครื่องบริจาคนั้น 49,0014,003,ให้สำเร็จผลต่างด้วยปฏิสนธิเป็นต้น และต่างด้วยอารมณ์อันเป็น 49,0014,004,นิสสัยปัจจัย แห่งปฏิสนธิเป็นต้นนั้น ไม่ใช่ไทยธรรมแล. 49,0014,005,บทว่า เอตํ พีชํ กสี เขตฺตํ ได้แก่ พืชตามที่หว่านแล้ว 49,0014,006,และนาตามที่กล่าวแล้ว. อธิบายว่า กสิ กล่าวคือประโยคในการ 49,0014,007,หว่านพืชนั้น ในนานั้น. การหว่านทั้ง ๓ อย่างนั้น จำปรารถนา 49,0014,008,เพราะฉะนั้นท่านจงกล่าวว่า เปตานํ ทายกสฺส จ เป็นต้น. ถ้าทายก 49,0014,009,ให้ทานอุทิศให้เปรตทั้งหลาย. แก่พวกเปรต และทายก. ถ้าไม่ให้ 49,0014,010,"ทานอุทิศให้พวกเปรต, อธิบายว่า พืชนั้น การหว่านนั้น และนานั้น" 49,0014,011,ย่อมมีเพื่อความอุปการะแก่ทายกเท่านั้น. บัดนี้ เพื่อจะแสดงถึง 49,0014,012,อุปการะนั้น ท่านจึงกล่าวว่า พวกเปรต ย่อมบริโภคผลนั้น ผู้ให้ 49,0014,013,ย่อมเจริญด้วยบุญ ดังนี้. 49,0014,014,บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ตํ เปตา ปริภุญฺชนฺติ ความว่า 49,0014,015,เมื่อทายก ถวายทานอุทิศพวกเปรต เมื่อนา การหว่าน และพืช 49,0014,016,ตามที่กล่าวแล้วสมบูรณ์ และมีการอนุโมทนา พวกเปรตย่อมบริโภค 49,0014,017,ผลทานที่สำเร็จแก่เปรต บทว่า ทาตา ปญฺเน วฑฺฒติ ความว่า 49,0014,018,แต่ผู้ให้ ย่อมเจริญด้วยผลแห่งบุญมีโภคสมบัติเป็นต้น ในเทวดาและ 49,0014,019,มนุษย์ อันมีบุญที่สำเร็จจากทานของตนเป็นนิมิต. จริงอยู่ แม้ผล 49,0014,020,แห่งบุญ ท่านก็เรียกว่า บุญ ในประโยคมีอาทิว่า ดูก่อน ภิกษุ