Book,Page,LineNumber,Text 48,0035,001,ผู้นี้ ชื่อว่ามนุษย์เปรต. อีกคนหนึ่ง เกิดเป็นมนุษย์ อาลัยผู้อื่นเลี้ยงชีพ 48,0035,002,ต้องทำงานหนักให้เขา หรือเป็นคนขาดมรรยาท ประพฤติแต่อนาจาร 48,0035,003,ถูกเขาข่มขู่ กลัวตายก็ไปอาศัยป่ารก มากไปด้วยทุกข์ ต้องซอกซอนไป 48,0035,004,ไม่รู้ประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ ได้แต่บรรเทาทุกข์ คือความหิวโหย 48,0035,005,ด้วยการนอนเป็นต้นเป็นเบื้องหน้า ผู้นี้ ชื่อว่ามนุษย์ดิรัจฉาน. ส่วนผู้ใด 48,0035,006,รู้จักประโยชน์มิใช่ประโยชน์ของตน เธอผลแห่งกรรม มีหิริ ละอายบาป 48,0035,007,โอตตัปปะ เกรงกลัวบาป สมบูรณ์ พรั่งพร้อมด้วยความเอ็นดูในสัตว์ 48,0035,008,ทั้งปวง มากไปด้วยความสลดใจ งดเว้นอกุศลกรรมบถ ประพฤติเอื้อเฟื้อ 48,0035,009,ในกุศลกรรมบถ บำเพ็ญบุญกิริยาวัตถุทั้งหลาย ผู้นี้ตั้งอยู่ในมนุษยธรรม 48,0035,010,ชื่อว่ามนุษย์โดยปรมัตถ์. แม้เทวดาองค์นี้ ก็เป็นเช่นนั้น ด้วยเหตุนั้น 48,0035,011,เทวดาจึงกล่าวว่า มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูตา ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ในหมู่ 48,0035,012,มนุษย์. อธิบายว่า ดีฉันถึงความเป็นมนุษย์ในหมู่สัตว์ที่เป็นมนุษย์ และ 48,0035,013,ไม่ละมนุษยธรรมดำรงอยู่. 48,0035,014,บทว่า อพฺภาคตานํ แปลว่า ผู้มาถึงเข้าแล้ว. อธิบายว่า อาคันตุกะ 48,0035,015,ที่มาถึงแล้ว. จริงอยู่ อาคันตุกะมี ๒ คือ อติถิ แขก และอัพภาคตะ 48,0035,016,ผู้มาถึง. บรรดาอาคันตุกะ ๒ อย่างนั้น อาคันตุกะผู้คุ้นเคยกันอยู่แล้ว ชื่อว่า 48,0035,017,อติถิ แขก. อาคันตุกะผู้ไม่คุ้นเคยกัน ชื่อว่า อัพภาคตะ ผู้มาถึง. 48,0035,018,ผู้มาถึงก่อน ทั้งผู้ที่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว หรือผู้ไม่คุ้นเคยกัน ชื่อว่า อติถิ 48,0035,019,แขก. ผู้ที่มาปรากฏตัวเวลากินอาหารมาถึงเดี๋ยวนี้เอง ชื่อว่า อัพภาคตะ. 48,0035,020,อีกนัยหนึ่ง ผู้ที่เขาเชิญมากินอาหาร ชื่อว่าอติถิ ผู้ที่เขาไม่ได้เชิญมา 48,0035,021,ชื่อว่าอัพภาคตะ. ก็ภิกษุรูปนี้ เป็นผู้มิได้คุ้นเคยกันมาก่อน เป็นผู้ที่เขา 48,0035,022,ไม่ได้นิมนต์ และมาถึงบัดนี้. เทวดาหมายถึงภิกษุรูปนั้น จึงกล่าวว่า