Book,Page,LineNumber,Text
48,0022,001,อีกนัยหนึ่ง วิมานนั้น เป็นผลหลั่งออกแห่งบุญกรรมอันใด เพราะ
48,0022,002,บุญกรรมนั้นเป็นผลของอโลภะ จึงชื่อว่าสำเร็จด้วยทอง เพราะเป็นผลแห่ง
48,0022,003,อโทสะ จึงชื่อว่าโอฬาร เพราะเป็นผลแห่งอโมหะ จึงชื่อว่าเร็วดังใจ
48,0022,004,ไปได้ตามปรารถนา. โดยทำนองอย่างนั้น วิมานนั้น ชื่อว่า สำเร็จด้วย
48,0022,005,ทอง ก็เพราะกรรมนั้นเป็นผลแห่งศรัทธา. ชื่อว่า โอฬาร เพราะเป็น
48,0022,006,ผลแห่งปัญญา. ชื่อว่า เร็วดังใจ เพราะเป็นผลแห่งวิริยะ.. ชื่อว่า ไปได้
48,0022,007,ตามปรารถนา เพราะเป็นผลแห่งสมาธิ. หรือพึงทราบว่า ชื่อว่า สำเร็จ
48,0022,008,ด้วยทอง เพราะเป็นผลแห่งศรัทธากับสมาธิ ชื่อว่า โอฬาร เพราะเป็น
48,0022,009,ผลแห่งสมาธิกับปัญญา ชื่อว่า มโนชวะ เร็วดังใจ เพราะเป็นผลแห่ง
48,0022,010,สมาธิกับวิริยะ ชื่อว่า ไปได้ตามปรารถนา เพราะเป็นผลแห่งสมาธิกับสติ.
48,0022,011,ในปีฐวิมานนั้น คำว่า ปีํ เป็นต้น เป็นคำระบุถึงความถึง
48,0022,012,พร้อมแห่งสมบัติอันเป็นผลแห่งบุญของเทวดานั้น โดยแสดงถึงสมบัติคือ
48,0022,013,วิมาน ฉันใด คำว่า อลงฺกเต เป็นต้น ก็ระบุถึงความถึงพร้อมแห่ง
48,0022,014,สมบัติอันเป็นผลแห่งบุญ โดยแสดงสมบัติคืออัตภาพ ก็ฉันนั้น. เหมือน
48,0022,015,อย่างว่า อัตภาพมีทองสีแดงเป็นเครื่องประดับ แม้ศิลปาจารย์ผู้ชำนาญ
48,0022,016,ประดิษฐ์แล้ว ขจิตด้วยมณีรัตนะ อันรุ่งเรืองด้วยข่ายมีรัศมีต่าง ๆ ย่อม
48,0022,017,งดงาม มิใช่งดงามอย่างเดียว ฉันใด อัตภาพที่พรั่งพร้อมทั่วสรรพางค์
48,0022,018,แม้งามโดย ๔ แง่ อันเขาประดับดีสดใสแล้วเทียว ย่อมงดงาม มิใช่
48,0022,019,งดงามอย่างเดียว ก็ฉันนั้น ด้วยเหตุนั้น พระเถระจึงแสดงความงดงาม
48,0022,020,อย่างวิเศษอันนำมา ของเทวดานั้น ด้วยบทว่า อลงฺกเต นี้ แสดงความ
48,0022,021,งดงามวิเศษอันไม่นำมา ด้วยบทว่า โอภาสสิ นี้. โดยทำนองอย่างนั้น