Book,Page,LineNumber,Text
45,0038,001,ราคะเป็นต้น เมื่อความหมายมีอยู่ดังว่ามานี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงไม่มี
45,0038,002,กิเลสทั้งหลายมีราคะเป็นต้นที่เป็นปฏิปักษ์ ซึ่งจะต้องนำไปกำจัด แม้สำหรับ
45,0038,003,ปุถุชนทั้งหลาย เมื่อจิตปราศจากอุปกิเลส ประกอบด้วยคุณ ๘ ประการ
45,0038,004,ขจัดกิเลสที่เป็นปฏิปักษ์ได้แล้ว อิทธิวิธี (การแสดงฤทธิ์ได้) จึงเป็นไป
45,0038,005,เพราะเหตุนั้น ตามโวหารที่เป็นไปในที่นั้น ใคร ๆ จึงไม่สามารถกล่าวว่าเป็น
45,0038,006,ปาฏิหาริย์ในที่นี้ แต่เพราะเหตุที่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้มีพระมหากรุณาธิคุณ
45,0038,007,ทรงมีกิเลสที่มีอยู่ในเวไนยสัตว์เป็นปฏิปักษ์ ฉะนั้น จึงชื่อว่า เป็นปาฏิหาริย์
45,0038,008,เพราะนำขจัดกิเลสเหล่านั้นไปเสีย.
45,0038,009,อีกประการหนึ่ง คำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้ามีพวกเดียรถีย์เป็น
45,0038,010,ปฏิปักษ์ ชื่อว่า เป็นปาฏิหาริย์ ก็เพราะนำ(ขจัด)เดียรถีย์เหล่านั้น. อธิบายว่า
45,0038,011,เดียรถีย์เหล่านั้น ถูกพระผู้มีพระภาคเจ้านำ คือ ขจัด ด้วยอิทธิปาฏิหาริย์
45,0038,012,อาเทสนาปาฏิหาริย์ และอนุสาสนีปาฏิหาริย์ เพราะไม่สามารถในการประกาศ
45,0038,013,ทิฏฐิ โดยนำขจัดทิฏฐิได้. อีกประการหนึ่ง บทว่า ปฏิ หมายความว่า
45,0038,014,ภายหลัง. เพราะเหตุนั้น ที่ชื่อว่า เป็นปาฏิหาริย์ เพราะหมายความว่า เป็น
45,0038,015,สิ่งที่ท่านผู้ทำกิจเสร็จแล้ว พึงนำไป คือ พึงให้เป็นไปภายหลัง ในเมื่อจิตตั้งมั่น
45,0038,016,ปราศจากอุปกิเลสแล้ว. อีกประการหนึ่ง เมื่ออุปกิเลสทั้งหลายของตนถูกมรรค
45,0038,017,อันประกอบด้วยฌานที่ ๔ นำไป (ขจัด) แล้ว การนำไปในภายหลังชื่อว่า
45,0038,018,ปาฏิหาริย์.
45,0038,019,ปาฏิหาริย์ทั้งหลาย มีก็เพราะเหตุที่ อิทธิวิธี อาเทสนาวิธี และ
45,0038,020,อนุสาสนีวิธี อันท่านผู้ปราศจากอุปกิเลส และทำกิจเสร็จแล้วพึงให้เป็นไปอีก
45,0038,021,เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์ และเพราะเหตุที่เมื่อนำอุปกิเลสทั้งหลายของตน
45,0038,022,ออกได้แล้ว จึงนำอุปกิเลสในสันดานของผู้อื่นออก (ภายหลัง). ปาฏิหาริย์
45,0038,023,นั่นแล ชื่อว่า ปาฏิหาริย์. อีกประการหนึ่ง คุณชาติแต่ละอย่างที่มีในเพราะ