Book,Page,LineNumber,Text
45,0014,001,ได้อยู่ในภาคเสื่อม   มิได้อยู่ในภาคเศร้าหมอง      หรือมิได้อยู่ในภาคหยุดชะงัก
45,0014,002,โดยที่แท้อยู่ในภาคคุณวิเศษที่สูง  ๆ  ขึ้นไป    มีอยู่แก่พระองค์    เพราะฉะนั้น 
45,0014,003,พระองค์จึงทรงพระนามว่า  ภตวา  (ผู้บำเพ็ญพุทธกรธรรม)    ดังนั้น    เมื่อ-
45,0014,004,ควรขนานพระนามว่า    ภตวา    แต่กลับถวาย  พระนามว่า   ภควา   เพราะ
45,0014,005,แปลงอักษร  ต   ให้เป็นอักษร  ค   ตามนัยแห่งนิรุกติศาสตร์.    อีกอย่างหนึ่ง
45,0014,006,บทว่า  ภตวา  มีความว่า  ทรงสั่งสม   คือ   อบรมไว้   ได้แก่บำเพ็ญพุทธกร-
45,0014,007,ธรรม  ตามที่กล่าวแล้วนั้นนั่นแล.  พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า  ภควา เพราะ
45,0014,008,หมายความว่า  ทรงอบรมพุทธกรธรรม   แม้ด้วยประการฉะนี้.
45,0014,009,<B>เพราะเหตุที่พระโลกนาถ  ทรงอบรม
45,0014,010,สัมภารธรรมทั้งหมด   มีทานบารมีเป็นต้น
45,0014,011,เพื่อพระสัมมาสัมโพธิญาณ    ฉะนั้น    จึง
45,0014,012,ถวายพระนามว่า  ภควา.</B>
45,0014,013,<H1>๓.  ทรงเสพภาคธรรม</H1>
45,0014,014,พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า  ภควา    เพราะหมายความว่า  ทรงเสพ
45,0014,015,ภาคธรรมเป็นอย่างไร ? คือ ส่วนแห่งสมาบัติที่ใช้ทุกวันนับได้จำนวนสองหมื่น
45,0014,016,สี่พันโกฏิเหล่าใดมีอยู่    พระพุทธเจ้าทรงใช้   ทรงคบ   ทรงส้องเสพ   ได้แก่
45,0014,017,ทรงทำให้มากอยู่เนืองนิตย์    ซึ่งส่วนแห่งสมาบัติเหล่านั้นไม่มีเหลือ    เพื่อ
45,0014,018,ประโยชน์เกื้อกูลแก่ชาวโลก    และเพื่อประทับอยู่อย่างเป็นสุขในปัจจุบันของ
45,0014,019,พระองค์    เพราะเหตุนั้น     จึงทรงพระนามว่า  ภควา     เพราะหมายความว่า
45,0014,020,ทรงเสพภาคธรรม.    อีกประการหนึ่ง    ในธรรมทั้งหลายที่ควรรู้ยิ่ง    มีกุศล
45,0014,021,เป็นต้น    และมีขันธ์เป็นต้น    ธรรมเหล่าใดเป็นส่วนที่ควรรู้ยิ่งด้วยอำนาจเป็น