Book,Page,LineNumber,Text 42,0022,001,ผล แต่เมื่อใด กรรมดีเผล็ดผล เมื่อนั้น เขาย่อม 42,0022,002,"เห็นกรรมดีว่าดี.""" 42,0022,003,

แก้อรรถ

42,0022,004,บุคคลผู้ประกอบบาปกรรมมีทุจริตทางกายเป็นต้น ชื่อว่าคนผู้บาป 42,0022,005,ในพระคาถานั้น. 42,0022,006,ก็บุคคลแม้นั้น เมื่อยังเสวยสุขอันเกิดขึ้น ด้วยอานุภาพแห่งสุจริต 42,0022,007,กรรมในปางก่อนอยู่ ย่อมเห็นแม้บาปกรรมว่าดี. 42,0022,008,บาทพระคาถาว่า ยาว ปาปํ น ปจฺจติ เป็นต้น ความว่า บาปกรรม 42,0022,009,ของเขานั้น ยังไม่ให้ผลในปัจจุบันภพหรือสัมปรายภพเพียงใด. (ผู้ทำ 42,0022,010,บาป ย่อมเห็นบาปว่าดี เพียงนั้น). แต่เมื่อใดบาปกรรมของเขานั้นให้ผล 42,0022,011,ในปัจจุบันภพหรือในสัมปรายภพ. เมื่อนั้น ผู้ทำบาปนั้น เมื่อเสวยกรรม- 42,0022,012,กรณ์ต่าง ๆ ในปัจจุบันภพ และทุกข์ในอบายในสัมปรายภพอยู่ ย่อมเห็น 42,0022,013,บาปว่าชั่วถ่ายเดียว. 42,0022,014,ในพระคาถาที่ ๒ (พึงทราบเนื้อความดังต่อไปนี้). บุคคลผู้ประ- 42,0022,015,กอบกรรมดีมีทุจริตทางกายเป็นต้น ชื่อว่าคนทำกรรมดี. คนทำกรรมดี 42,0022,016,แม้นั้น เมื่อเสวยทุกข์อันเกิดขึ้นด้วยอานุภาพแห่งทุจริตในปางก่อน ย่อม 42,0022,017,เห็นกรรมดีว่าชั่ว. 42,0022,018,บาทพระคาถาว่า ยาว ภทฺรํ น ปจฺจิต เป็นต้น ความว่ากรรมดี 42,0022,019,ของเขานั้น ยังไม่ให้ผล ในปัจจุบันภพหรือในสัมปรายภพเพียงใด. (คน 42,0022,020,ทำกรรมดี ย่อมเห็นกรรมดีว่าชั่วอยู่ เพียงนั้น). แต่เมื่อใด กรรมดีนั้น 42,0022,021,"ให้ผล, เมื่อนั้นคนทำกรรมดีนั้น เมื่อเสวยสุขที่อิงอามิส มีลาภและสักการะ"