Book,Page,LineNumber,Text 38,0049,001,ความดำริไม่ขุ่นมัว ๑ มีกายสังขารอันสงบระงับแล้ว ๑ มีจิตหลุดพ้นแล้ว 38,0049,002,ด้วยดี ๑ มีปัญญาอันหลุดพ้นแล้วด้วยดี ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 38,0049,003,เป็นที่อยู่แห่งพระอริยะ ที่พระอริยะอยู่แล้วก็ดี กำลังอยู่ก็ดี จักอยู่ก็ดี 38,0049,004,๑๐ ประการนี้แล. 38,0049,005,จบปฐมอริยวสสูตรที่ ๙ 38,0049,006,

อรรถกถาปฐมอริยวสสูตรที่ ๙

38,0049,007,สูตรที่ ๙ พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้. 38,0049,008,บทว่า อริยวาสา ได้แก่ ที่ชื่อว่า อริยวาส ก็เพราะเป็นที่ ๆ พระ- 38,0049,009,อริยะทั้งหลายอยู่แล้ว กำลังอยู่ จักอยู่จบพรหมจรรย์. คำว่า ยทริยา ตัด 38,0049,010,บทว่า เย วาเส อริยา. 38,0049,011,จบอรรถกถาปฐมอริยวสสูตรที่ ๙ 38,0049,012,

๑๐. ทุติยอริยวสสูตร

38,0049,013,

ว่าด้วยธรรมเป็นที่อยู่แห่งพระอริยะ ๑๐ ประการ

38,0049,014,[๒๐] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่นิคมของชาวกุรุ 38,0049,015,ชื่อกัมมาสธรรม ในแคว้นกุรุ ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเรียก 38,0049,016,ภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระ- 38,0049,017,ภาคเจ้าแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 38,0049,018,เป็นที่อยู่แห่งพระอริยะ ที่พระอริยะอยู่แล้วก็ดี กำลังอยู่ก็ดี จักอยู่ก็ดี 38,0049,019,๑๐ ประการนี้ ๑๐ ประการเป็นไฉน คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้เป็นผู้ละ 38,0049,020,องค์ ๕ ได้แล้ว ๑๐ ประกอบด้วยองค์หก ๑ รักษาแต่อย่างเดียว ๑ 38,0049,021,มีธรรมเป็นที่พักพิง ๔ ประการ ๑ มีปัจเจกสัจจะบรรเทาได้แล้ว ๑ มีการ 38,0049,022,แสวงหาอันสละแล้วด้วยดี ๑ มีความดำริไม่ขุ่นมัว ๑ มีกายสังขารอันสงบ