Book,Page,LineNumber,Text 31,0034,001,ก็แล โกลังโกลบุคคล เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ 31,0034,002,เพราะสังโยชน์ ๓ หมดไปอย่างสิ้นเชิง จึงเป็นพระโสดาบัน ซึ่งไม่มี 31,0034,003,ความตกต่ำเป็นธรรมดา แน่นอนมุ่งหน้าแต่จะตรัสรู้ เขาเที่ยววิ่งไป 31,0034,004,อีกสองหรือสามตระกูลแล้ว จึงจะทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ บุคคลนี้ 31,0034,005,เรียกว่า โกลังโกละ. 31,0034,006,พึงทราบว่า ตระกูล ในพระพุทธดำรัสนั้น ได้แก่ ภพ. และคำว่า 31,0034,007,สองหรือสาม นี้ สักว่าเป็นการแสดงในที่นี้เท่านั้น เพราะผู้ท่องเที่ยวไป 31,0034,008,จนถึงภพที่ ๖ ก็ยังเป็นโกลังโกละอยู่นั่นเอง. 31,0034,009,ผู้ที่เกิดขึ้นอีกอย่างมากก็แค่เจ็ดครั้ง ไม่ถือเอาภพที่แปด นี้ชื่อ 31,0034,010,สัตตักขัตตุปรมะ มีเจ็ดครั้งเป็นอย่างยิ่ง สมดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า 31,0034,011,ก็แล สัตตักขัตตุปรมบุคคล เป็นไฉน บุคคลบางคนใน 31,0034,012,โลกนี้ เพราะสังโยชน์ ๓ สิ้นไปอย่างสิ้นเชิง จึงเป็นพระโสดาบัน 31,0034,013,ที่ไม่มีความตกต่ำเป็นธรรมดาเป็นผู้แน่นอน มุ่งหน้าแต่จะตรัสรู้ เขา 31,0034,014,ท่องเที่ยวไปสู่เทพและมนุษย์ อีก ๗ ครั้งแล้ว จึงจะทำที่สุดแห่งทุกข์ 31,0034,015,ได้ บุคคลนี้เรียกว่า สัตตักขัตตุปรมะ. 31,0034,016,ก็แล ฐานะของท่านเหล่านั้น ย่อมมีได้ด้วยอำนาจชื่อที่พระผู้มีพระ- 31,0034,017,ภาคเจ้าทรงถือเอาแล้ว คือ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงถือเอาชื่อของท่านเหล่านี้ 31,0034,018,ว่า ผู้ถึงฐานะเท่านี้ เป็นเอกพีชี เท่านี้เป็นโกลังโกละ เท่านี้เป็นสัตตัก- 31,0034,019,ขัตตุปรมะ ส่วนที่กำหนดตายตัวลงไปว่า นี้เป็นเอกพีชี นี้เป็นโกลังโกละ 31,0034,020,นี้เป็นสัตตักขัตตุปรมะ ไม่มี. 31,0034,021,ถามว่า ก็ใครกำหนดประเภทเท่านั้นเท่านี้ของท่านเหล่านั้น 31,0034,022,ลงไป.