Book,Page,LineNumber,Text 31,0006,001,[๘๕๑] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ส่วนสมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่า 31,0006,002,หนึ่งรู้ชัดซึ่งสัทธินทรีย์ ความเกิดแห่งสัทธินทรีย์ ความดับแห่งสัทธินทรีย์ 31,0006,003,และปฏิปทาอันให้ถึงความดับแห่งสัทธินทรีย์ รู้ชัดซึ่งวิริยินทรีย์... สติน- 31,0006,004,ทรีย์... สมาธินทรีย์... รู้ชัดซึ่งปัญญินทรีย์ ความเกิดแห่งปัญญินทรีย์ 31,0006,005,ความดับแห่งปัญญินทรีย์ และปฏิปทาให้ถึงความดับแห่งปัญญินทรีย์ สมณะ 31,0006,006,หรือพราหมณ์พวกนั้น เรานับว่าเป็นสมณะในพวกสมณะ หรือเป็นพราหมณ์ 31,0006,007,ในพวกพราหมณ์ เพราะท่านเหล่านั้นกระทำให้แจ้งซึ่งประโยชน์ของความเป็น 31,0006,008,สมณะและของความเป็นพราหมณ์ ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบันเข้าถึงอยู่. 31,0006,009,จบทุติยสมณพราหมณสูตรที่ ๗ 31,0006,010,

อรรถกถาทุติยสมณพราหมณสูตร

31,0006,011,สูตรที่ ๗. คำว่า ไม่รู้ชัดซึ่งสัทธินทรีย์ คือไม่เข้าใจด้วยอำนาจ 31,0006,012,แห่งทุกขสัจ. คำว่า ไม่รู้ชัดซึ่งความเกิดขึ้นแห่งสัทธินทรีย์ คือไม่เข้า 31,0006,013,ใจชัดด้วยอำนาจสมุทัยสัจ ไม่เข้าใจชัดนิโรธด้วยสามารถแห่งนิโรธสัจ ไม่เข้า 31,0006,014,ใจชัดทางปฏิบัติ ด้วยอำนาจมรรคสัจ อย่างนี้แล. แม้ในคำที่เหลือก็นัย 31,0006,015,นี้แหละ. 31,0006,016,ส่วนในฝ่ายขาว การเกิดขึ้นพร้อมแห่งสัทธินทรีย์ ย่อมมีได้ด้วยการ 31,0006,017,เกิดขึ้นพร้อมแห่งการพิจารณาด้วยอำนาจอธิโมกข์ (การน้อมใจเชื่อ). การ 31,0006,018,เกิดขึ้นพร้อมแห่งวิริยินทรีย์ ย่อมมีได้ด้วยการเกิดขึ้นพร้อมแห่งการพิจารณา 31,0006,019,ด้วยอำนาจการประคับประคองจิตไว้ การเกิดขึ้นพร้อมแห่งสตินทรีย์ ย่อมมีได้