Book,Page,LineNumber,Text 29,0042,001,[๔๑๘] ดูก่อนอานนท์ ก็สุขอื่นอันน่าใคร่ยิ่งกว่าและประณีตกว่า 29,0042,002,สุขนั้นเป็นไฉน. ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เข้าจตุตถฌานอันไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข 29,0042,003,เพราะละสุขละทุกข์ และดับโสมนัสโทมนัสก่อน ๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุ 29,0042,004,ให้สติบริสุทธิ์อยู่ นี้แลเป็นสุขอื่นอันน่าใคร่ยิ่งกว่าและประณีตกว่าสุขนั้น. 29,0042,005,[๔๑๙] ดูก่อนอานนท์ ชนเหล่าใดแลพึงกล่าวอย่างนี้ว่า ชนทั้ง 29,0042,006,หลายย่อมเสวยสุขโสมนัสนั้น อันเป็นเยี่ยมและละเอียด ดังนี้ เราไม่ 29,0042,007,ยอมตามคำนี้ แก่ชนเหล่านั้น ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร. เพราะสุขอื่นอัน 29,0042,008,น่าใคร่ยิ่งกว่าและประณีตกว่าสุขนั้น มีอยู่. 29,0042,009,[๔๒๐] ดูก่อนอานนท์ สุขอื่นอันน่าใคร่ยิ่งกว่าและประณีตกว่า 29,0042,010,สุขนั้นเป็นไฉน. ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เข้าอากาสานัญจายตนฌานโดย 29,0042,011,บริกรรมว่า อากาศไม่มีที่สุด เพราะก้าวล่วงรูปสัญญาทั้งหลาย เพราะความ 29,0042,012,ดับสูญแห่งปฏิฆสัญญาทั้งหลาย เพราะไม่มนสิการถึงนานัตตสัญญาทั้งหลาย 29,0042,013,โดยประการทั้งปวงอยู่ นี้แลเป็นสุขอื่นอันน่าใคร่ยิ่งกว่าและประณีตกว่า 29,0042,014,สุขนั้น ชนเหล่าใดแลพึงกล่าวอย่างนี้ว่า ชนทั้งหลายย่อมเสวยสุข 29,0042,015,โสมนัสนั้นอันเป็นเยี่ยมและละเอียด ดังนี้ เราไม่ยอมตามคำนี้ แก่ชนเหล่า 29,0042,016,นั้น ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร. เพราะสุขอื่นอันน่าใคร่ยิ่งกว่าและประณีต 29,0042,017,กว่าสุขนั่น มีอยู่. 29,0042,018,[๔๒๑] ดูก่อนอานนท์ สุขอื่นอันน่าใคร่ยิ่งกว่าและประณีตกว่า 29,0042,019,สุขนั่นเป็นไฉน. ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ก้าวล่วงอากาสานัญจายตนฌานโดย 29,0042,020,ประการทั้งปวงแล้ว เข้าวิญญาณัญจายตนฌานโดยบริกรรมว่า วิญญาณไม่