Book,Page,LineNumber,Text 29,0008,001,วาจาไม่มี ไม่ปรากฏ. บทว่า เอวํ วาจํ ภาสติ ความว่า ปุถุชน ย่อม 29,0008,002,พูดอย่างนี้ว่า ในมหาสมุทรมีบาดาล. ก็บาดาลนั้น คล้ายเหวในมหานรก 29,0008,003,ย่อมมีในที่ตกแห่งน้ำซึ่งเป็นปากน้ำเชี่ยว แห่งมหาสมุทร พุ่งไปด้วยความ 29,0008,004,เร็ว จดจักรวาล หรือภูเขาสิเนรุแล้ว ก็พุ่งขึ้น แม้ประมาณหนึ่งโยชน์ 29,0008,005,สองโยชน์. หรือสิบโยชน์แล้ว ก็ตกลงในมหาสมุทรอีก. น้ำใด เขาเรียก 29,0008,006,กันในโลกว่า ปากน้ำเชี่ยว ปุถุชนย่อมพูดอย่างนี้ หมายถึงน้ำนั้น. ก็ 29,0008,007,เพราะในน้ำแห่งมหาสมุทรนั้นเป็นที่อยู่อาศัยอันสบายของปลา เต่า 29,0008,008,เทพยดาและยักษ์เห็นปานนั้นฉะนั้น. ชื่อว่า ย่อมพูดวาจานั้น ๆ อันไม่มี 29,0008,009,ปรากฏ. ก็เพราะพวกปุถุชนทั้งปวง ย่อมไม่สามารถเพื่อจะดำรงอยู่ด้วย 29,0008,010,ทุกขเวทนาอันเป็นไปในสรีระได้. ฉะนั้น พระองค์ ทรงแสดงว่า นี้แหละ 29,0008,011,บาดาลดังนี้ ด้วยความหมายว่า ไม่ควรเพื่อตกไป จึงตรัสคำเป็นอาทิว่า 29,0008,012,สารีริกานํ โข เอตํ ภิกฺขเว. บทว่า ปาตาเล น ปจฺจุฏฺ€าติ คือ ไม่ต้อง 29,0008,013,อยู่แล้วในบาดาล. บทว่า คาธํ คือ ที่อยู่อาศัย. 29,0008,014,บทว่า กนฺทติ ความว่า ย่อมคร่ำครวญบ่นเพ้อร่ำไรตลอดกาล. 29,0008,015,บทว่า ทุพฺพโล คือมีญาณทุรพล. บทว่า อปฺปถามโก ความว่า ชื่อว่ามีกำลัง 29,0008,016,น้อย เพราะกำลังแห่งญาณที่น้อย. เพราะอริยสาวกในสูตรนี้ เป็นโสดาบัน 29,0008,017,ความจริง อริยสาวกผู้โสดาบัน มีหน้าที่ในข้อนี้ . ฝ่ายโยคาวจรผู้มีวิปัสสนา 29,0008,018,แก่กล้าคือความรู้เฉียบแหลมเป็นผู้สามารถดำรงอยู่ได้ ไม่ดิ้นรนไปตาม 29,0008,019,เวทนาอันเกิดขึ้นแล้วได้เหมือนกัน. 29,0008,020,จบ อรรถกถาปาตาลสูตรที่ ๔