Book,Page,LineNumber,Text 14,0047,001,อุบลเขียวโบกกระพือเครื่องหอมนั้น. ด้วยประการฉะนี้ภิกษุแต่ละรูปๆ ก็มีธิดา 14,0047,002,กษัตริย์สามนาง ๆ เป็นบริวาร ผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่แต่งเครื่องสำอางพร้อม 14,0047,003,สรรพถือใบตาลพัด นางอื่นเอาที่กรองน้ำ หญิงอื่นนำเอาน้ำจากบาตร. สำหรับ 14,0047,004,พระผู้มีพระภาคเจ้า มีของสี่อย่างตีราคาไม่ได้. ของสี่อย่างที่ตีราคาไม่ได้เหล่า 14,0047,005,นี้คือ ที่เช็ดพระบาท ที่รองของ กระดานพิง มณีเชิงฉัตร. ไทยธรรมสำหรับ 14,0047,006,ภิกษุใหม่ในสงฆ์มีค่าแสนหนึ่ง. ก็แหละในการถวายทานนั้น พระองคุลิมาลเถระ 14,0047,007,ได้เป็นภิกษุใหม่ในสงฆ์ ใกล้ที่นั่งของท่าน ช้างที่นำมา ๆ แล้ว ไม่สามารถ 14,0047,008,เข้าใกล้ท่านได้. ลำดับนั้น เจ้าพนักงานกราบทูลพระราชา พระราชาตรัสสั่งว่า 14,0047,009,พวกท่านจงนำเอาช้างเชือกอื่นมา ช้างที่นำมาแล้ว นำมาแล้วก็ไม่สามารถ 14,0047,010,เลย. พระราชาตรัสว่า ไม่มีช้างเชือกอื่น. เจ้าพนักงานกราบทูลว่า ยังมี 14,0047,011,ช้างดุอยู่ แต่นำมาไม่ได้. พระราชาทูลถามพระตถาคตเจ้าว่า พระเจ้าข้า. 14,0047,012,รูปใดเป็นภิกษุใหม่ในสงฆ์ พระตถาคตเจ้าตรัสว่า องคุลิมาล มหาบพิตร 14,0047,013,เพราะฉะนั้น ขอให้เจ้าพนักงานนำเอาช้างดุมาเทียบไว้เถิด มหาบพิตร พวก 14,0047,014,เจ้าพนักงานแต่งช้างดุแล้วก็นำมา. ด้วยเดชของพระเถระ ช้างเชือกนั้น แม้ 14,0047,015,สักว่าพ่นลมจมูก ก็ทำไม่ได้. พระราชาได้ทรงถวายทานติดต่อกันเจ็ดวันด้วย 14,0047,016,ประการฉะนี้. ในวันที่ ๗ พระราชาทรงถวายบังคมแล้วกราบทูลพระทศพลว่า 14,0047,017,ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระองค์โปรดแสดงธรรมแก่ข้าพระองค์เถิด. 14,0047,018,ก็แหละในบริษัทนั้น มีอำมาตย์ ๒ คน คือ กาฬะ และ ชุณหะ. กาฬะ 14,0047,019,คิดว่า สมบัติของราชตระกูลจะฉิบหาย พวกคนมีประมาณเท่านี้ จักทำอะไร 14,0047,020,กินแล้วไปวัดแล้วก็จักนอนเท่านั้นเอง แต่ราชบุรุษคนเดียวได้สิ่งนี้ จะไม่ 14,0047,021,กระทำหรือ โอ้! สมบัติของในหลวงจะฉิบหาย. ชุณหะคิดว่า ขึ้นชื่อว่า 14,0047,022,ความเป็นพระราชานี้ยิ่งใหญ่ คนอื่นใดเล่าจักทำสิ่งนี้ได้ ขึ้นชื่อว่าพระราชา 14,0047,023,คือผู้ที่แม้ดำรงอยู่ในความเป็นพระราชาแล้วจะทรงให้ทานเห็นปานนั้นไม่ได้หรือ