Book,Page,LineNumber,Text 14,0043,001,บุรีตลอดพระชนมายุ ก็ชื่อว่า ทรงปฏิบัติเพื่อเกื้อกูลแก่ชนมาก. พระองค์ 14,0043,002,ทรงเห็นบุพนิมิต ๕ อย่างในดุสิตบุรีนั้น ผู้อันพวกเทวดาในหมื่น 14,0043,003,จักรวาลอ้อนวอนแล้ว ทรงตรวจดูมหาวิโลกนะ ๕ ประการแล้ว ประทาน 14,0043,004,ปฏิญาณเพื่อประโยชน์แก่การสงเคราะห์พวกเทวดา แล้วทรงจุติจากดุสิตบุรี 14,0043,005,แม้ทรงถือปฏิสนธิในพระครรภ์มารดา ก็ชื่อว่าทรงปฏิบัติเพื่อเกื้อกูลแก่ชนหมู่ 14,0043,006,มาก. ทรงอยู่ในพระครรภ์พระมารดาตลอดสิบเดือนแล้วประสูติจากพระครรภ์ 14,0043,007,พระมารดาที่ป่าลุมพินีก็ดี ทรงครองเรือนสิ้นยี่สิบเก้าพรรษา เสด็จออก 14,0043,008,มหาภิเนษกรมณ์ ทรงผนวชอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำอโนมาก็ดี ทรงทำพระองค์ให้ 14,0043,009,ลำบากด้วยความเพียรที่ยิ่งใหญ่ ตั้งหกปีแล้วเสด็จขึ้นสู่โพธิบัลลังก์แล้วทรงแทง 14,0043,010,ตลอดพระสัพพัญญุตญานก็ดี ทรงยังพระอิริยาบถให้เป็นไปที่ควงไม้โพธิ์ตลอด 14,0043,011,เจ็ดสัปดาห์ก็ดี เสด็จอาศัยป่าอิสิปตนะแล้วทรงหมุนล้อธรรมอันยอดเยี่ยมก็ดี 14,0043,012,ทรงกระทำยมกปาฏิหาริย์ก็ดี เสด็จลงจากเทวโลกก็ดี ทรงเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว 14,0043,013,เสด็จดำรงอยู่ตั้งสี่สิบห้าพรรษาก็ดี ทรงปลงพระชนมายุสังขารก็ดี เสด็จ 14,0043,014,ปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุระหว่างคู่ไม้สาละก็ดี ก็ชื่อว่าทรงปฏิบัติ 14,0043,015,เพื่อเกื้อกูลแก่ชนหมู่มาก. พึงทราบว่า ทรงปฏิบัติเพื่อเกื้อกูลแก่ชนหมู่มาก 14,0043,016,ตลอดเวลาที่พระธาตุของพระองค์แม้เท่าเม็ดผักกาดยังธำรงอยู่. บทที่เหลือก็ 14,0043,017,เป็นคำใช้แทนบทว่า ทรงปฏิบัติเพื่อเกื้อกูลแก่ชนหมู่มาก นี้ทั้งนั้น 14,0043,018,ในบทเหล่านั้น บทหลัง เป็นไขความของบทก่อน 14,0043,019,ในหลายบทว่า ในส่วนอดีต เรายังมองไม่เห็นเลย และใน 14,0043,020,บัดนี้ก็มองไม่เห็น นี้หมายความว่า แม้ในอดีต เราก็มองไม่เห็น ในอนาคต 14,0043,021,ก็มองไม่เห็นคนอื่นนอกจากพระพุทธเจ้า ถึงในบัดนี้ก็มองไม่เห็นเพราะไม่มี 14,0043,022,ศาสดาอื่นเลย นอกจากพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น . ถึงแม้ในอรรถกถา 14,0043,023,ท่านก็วิจารณ์ว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลายทั้งที่ล่วงแล้ว และที่ยังไม่มาถึง ต่างก็