Book,Page,LineNumber,Text 14,0039,001,ไปทางทิศตะวันออก เอาพวกเทวดาในเทวโลกทั้งสองไว้ข้างหน้าแล้วประทับ 14,0039,002,นั่งทางทิศตะวันตก. 14,0039,003,ท้าวเวสวัณเป็นราชาแห่งยักษ์ มีพวกยักษ์แสนโกฏิแวดล้อมให้ถือ 14,0039,004,เอากระดานแผ่นใหญ่ที่ทำด้วยแก้วประพาฬแสนโกฏิ และหอกทองคำหันพระ 14,0039,005,พักตร์ไปทางทิศใต้ เอาพวกเทวดาในเทวโลกทั้งสองไว้ข้างหน้าแล้วประทับนั่ง 14,0039,006,ทางทิศเหนือ. 14,0039,007,บทว่า และข้างหลังเป็นอาสนะของพวกเรา คือ โอกาส 14,0039,008,สำหรับนั่งของพวกเรา ย่อมถึงทางด้านหลังของท่านทั้ง ๔ องค์นั้น ต่อจาก 14,0039,009,นั้น พวกเราจะเข้าก็ไม่ได้ หรือจะดูก็ไม่ได้ 14,0039,010,สำหรับในกรณีนี้ ท่านกล่าวเหตุการประชุมกัน ๔ อย่างไว้ก่อน 14,0039,011,ทีเดียว. ในเหตุทั้ง ๔ อย่างนั้น การประมวลลงในวันเข้าพรรษาท่านขยายไว้ 14,0039,012,ให้กว้างขวางแล้ว. จริงอยู่ เหตุในวันเข้าพรรษาเป็นฉันใด ภิกษุทั้งหลาย 14,0039,013,ประชุมกันในวันเพ็ญในวันมหาปวารณาปรึกษากันว่า วันนี้พวกเราจักไปไหน 14,0039,014,แล้วปวารณาในสำนักใคร ก็ฉะนั้น ในที่ประชุมนั้นท้าวสักกะ จอมทวยเทพ 14,0039,015,โดยมากจะทรงปวารณาในปิยังคุทีปพระมหาวิหารนั่นเอง. พวกเทพที่เหลือ 14,0039,016,ก็ถือเอาดอกไม้ทิพย์เช่นดอกปาริฉัตรเป็นต้น และผงจันทน์ทิพย์แล้วไปสู่ที่เป็น 14,0039,017,ที่ชอบใจของตน ๆ แล้ว ปวารณากัน. แบบนี้ชื่อว่า ย่อมประชุมกันเพื่อ 14,0039,018,ประโยชน์แก่การสงเคราะห์ปวารณา. 14,0039,019,ก็ในเทวโลกมีเถาชื่ออาสาวดี พวกเทวดาคิดว่าเถานั้นจักออกดอก 14,0039,020,จึงไปสู่ที่บำรุงตลอดพันปี เมื่อต้นปาริฉัตรกำลังออกดอกพวกเทวดาไปสู่ที่ 14,0039,021,บำรุงตลอดหนึ่งปี. เทวดาเหล่านั้นพากันดีใจ ตั้งแต่ต้นไม้นั้นมีใบเหลืองเป็น 14,0039,022,ต้นไป. เหมือนอย่างที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย ในสมัยใด 14,0039,023,ไม้ปาริฉัตร คือไม้ทองหลาง ของพวกเทพชาวดาวดึงส์ มีใบเหลือง ภิกษุ