Book,Page,LineNumber,Text 13,0042,001,บัณฑิต ส่วนหมู่สัตว์นี้ มีอาลัยเป็นที่ยินดี ยินดีแล้วในอาลัยเบิกบานแล้วใน 13,0042,002,อาลัย ก็อันหมู่สัตว์ผู้มีอาลัยเป็นที่ยินดี ยินดีแล้วในอาลัย เบิกบานแล้วในอาลัย 13,0042,003,ยากที่จะเห็นได้ซึ่งฐานะนี้ คือ ปัจจัยแห่งสภาวธรรมอันเป็นที่อาศัยกันเกิดขึ้น 13,0042,004,(ปฏิจจสมุบาท) ยากที่จะเห็นได้ซึ่งฐานะแม้นี้คือ พระนิพพาน ซึ่งเป็นที่ระงับ 13,0042,005,แห่งสังขารทั้งปวง เป็นที่สลัดอุปธิทั้งปวง เป็นที่สิ้นไปแห่งตัณหา คลายความ 13,0042,006,กำหนัด ดับทุกข์ ก็และเราพึงแสดงธรรม แต่สัตว์เหล่าอื่นไม่พึงรู้ทั่วถึงธรรมของ 13,0042,007,เรานั้น พึงเป็นความลำบากแก่เรา นั้นพึงเป็นความเดือนร้อนแก่เรา ดูกรพรหม 13,0042,008,คาถาที่ไม่น่าอัศจรรย์ ซึ่งเรามิได้สดับมาแล้วแต่ก่อนหรือได้แจ่มแจ้งแล้วดังนี้ 13,0042,009,บัดนี้ไม่ควรเลยที่จะประกาศธรรมที่เราได้บรรลุแล้ว โดยแสนยาก ฯลฯ 13,0042,010,ดูกรพรหม เมื่อเราพิจารณาเห็นดังนี้ จิตก็น้อมไปเพื่อความขวนขวาย 13,0042,011,น้อย มิได้น้อมไปเพื่อจะแสดงธรรม. 13,0042,012,ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ครั้งที่สองแล ท้าวมหาพรหมนั้น ฯลฯ 13,0042,013,ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ครั้งที่สามแล ท้าวมหาพรหมนั้นก็ได้กราบทูล 13,0042,014,พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าวิปัสสีว่า ข้าแต่พระองค์ผู้ 13,0042,015,เจริญ ขอพระผู้มีพระภาคจงทรงแสดงธรรม ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระสุคต 13,0042,016,จงทรงแสดงธรรม ในโลกนี้ สัตว์ที่มีกิเลสเพียงดังธุลีในจักษุเบาบางยังมีอยู่ 13,0042,017,เพราะมิได้ฟังธรรม สัตว์เหล่านั้นจึงเสื่อมเสียไป ผู้รู้ทั่วถึงธรรมได้ ยังจักมี 13,0042,018,อยู่ดังนี้ 13,0042,019,

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าวิปัสสีทรงตรวจโลก

13,0042,020,ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธ- 13,0042,021,เจ้าพระนามว่าวิปัสสี ทรงทราบการทูลเชิญของพรหมแล้ว ทรงอาศัยพระกรุณา 13,0042,022,ในหมู่สัตว์ จึงได้ตรวจดูโลกด้วยพุทธจักษุ ภิกษุทั้งหลาย พระผู้มีพระภาค 13,0042,023,อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าปัสสี เมื่อทรงตรวจดูโลกด้วยพุทธจักษุ ก็