Book,Page,LineNumber,Text
12,0037,001,ลำดับนั้น พราหมณ์คิดว่า ปัญญาเราเฉลยแล้วด้วยอำนาจแห่งลัทธิ
12,0037,002,ของตน แต่พระสมณโคดมกลับย้อนถามเราอีก บัดนี้เราจะพึงสามารถที่จะ
12,0037,003,เฉลยปัญหาทำให้พระทัยของพระองค์ยินดี หรือไม่สามารถ ถ้าเราจักไม่
12,0037,004,สามารถ ความละอายของเราแม้ที่เกิดในครั้งแรก จักทำลายไป แต่โทษใน
12,0037,005,การกล่าวว่า ข้าพเจ้าไม่สามารถ ดังนี้ ไม่มีแก่เราผู้ไม่สามารถอยู่ ดังนี้ จึง
12,0037,006,ย้อนกลับมา ทำให้เป็นภาระแก่พระผู้มีพระภาคเจ้าองค์เดียวอีก จึงกราบทูล
12,0037,007,คำเป็นต้นว่า ก็ข้าพระองค์ทั้งหลายมีความรู้เพียงแค่นี้ ดังนี้. บรรดาบทเหล่า
12,0037,008,นั้น บทว่า มีความรู้เพียงแค่นี้ คือ ศีลและปัญญา เพียงแค่นี้ ได้แก่ศีล
12,0037,009,และปัญญา เพียงนี้เท่านั้น เป็นอย่างยิ่ง ของข้าพระองค์ทั้งหลาย ความว่า
12,0037,010,พวกข้าพระองค์เหล่านั้นมีศีลและปัญญา เพียงแค่นี้ เป็นอย่างยิ่ง คือไม่
12,0037,011,ทราบเนื้อความแห่งคำที่ตรัสนั้น ยิ่งขึ้นไปกว่านั้น.
12,0037,012,ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อจะทรงแสดงศีลและปัญญา จำเดิม
12,0037,013,แต่การอุบัติของพระตถาคต ผู้ทรงเป็นรากเง่าของศีลและปัญญาแก่เขา จึง
12,0037,014,ตรัสพระดำรัสว่า พราหมณ์ ตถาคตในโลกนี้ ดังนี้ เป็นต้น. ใจความ
12,0037,015,แห่งบทนั้น พึงทราบตามนัยที่ท่านกล่าวไว้แล้ว ในสามัญญผลสูตรนั้นแล.
12,0037,016,แต่ข้อแตกต่างมีดังต่อไปนี้. ในที่นี้ศีลแม้ทั้งสามอย่างนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้า
12,0037,017,ทรงชี้ชัด ว่าเป็นศีลโดยแท้อย่างนี้ว่า แม้ข้อนี้ก็จัดอยู่ในศีลของเธอ. ฌาน ๔
12,0037,018,มีปฐมฌานเป็นต้น โดยความจัดเป็นปัญญาสัมปทา. พระผู้มีพระภาคเจ้า มิได้
12,0037,019,ทรงชี้ชัดด้วยอำนาจแห่งปัญญา ทรงแสดงโดยเพียงเป็นปทัสถานแห่งปัญญา
12,0037,020,มีวิปัสสนาเป็นต้น ทรงชี้ชัดถึงปัญญา จำเดิมแต่วิปัสสนาปัญญา ด้วยประการ
12,0037,021,ฉะนี้. บทว่า เพื่อฉันในวันพรุ่งนี้ พึงทราบใจความตามนัยที่กล่าวแล้วใน
12,0037,022,คำนี้ว่าเพื่อฉันในวันนี้นั่นแล.