Book,Page,LineNumber,Text
12,0033,001,บทว่า ความตรึกตรองแห่งใจ ด้วยพระทัย ความว่า พระผู้มีพระ
12,0033,002,ภาคเจ้าทรงใคร่ครวญดูอยู่ว่า พราหมณ์นี้จำเดิมแต่กาลที่ตนมาแล้ว ก้มหน้า
12,0033,003,มีตัวแข็งทื่อ นั่งคิดอะไรอยู่ กำลังคิดอะไรหนอ ก็ได้ทรงทราบจิตของ
12,0033,004,พราหมณ์นั้น ด้วยพระทัยของพระองค์ เพราะเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า
12,0033,005,ทรงทราบความตรึกตรองแห่งใจด้วยพระทัย ดังนี้. บทว่า ย่อมเดือดร้อน
12,0033,006,คือ ถึงความลำบากใจ
12,0033,007,บทว่า เหลียวดูชุมนุมชน ความว่า โสณฑัณฑพราหมณ์มีกายและใจ
12,0033,008,สงบระงับแล้วราวกะจมลงในน้ำ ด้วยการตรัสถามปัญหาในลัทธิของตน
12,0033,009,ถูกพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงยกขึ้นแล้ววางไว้บนบก คล้าย ๆ จะกล่าวว่า ขอ
12,0033,010,ท่านผู้เจริญจงใคร่ครวญดูคำพูดของข้าพระองค์ด้วยการสัญจรไปแห่งทิฏฐิ
12,0033,011,แม้เพื่อสงเคราะห์ชุมนุมชน ดังนี้แล้วเหลียวดูชุมนุมชน ได้กราบทูลคำ
12,0033,012,นั้นกะพระผู้มีพระภาคเจ้า. บทว่า ผู้รับการบูชา ความว่า เป็นคนที่ ๑ หรือ
12,0033,013,ที่ ๒ ในบรรดาพราหมณ์ที่รับการบูชา เพื่อประโยชน์แก่การบูชายัญ. ท่าน
12,0033,014,โบราณาจารย์กล่าวว่า ผู้รับการบูชาอย่างใหญ่ที่เขาให้อยู่เพื่อบูชา.
12,0033,015,พราหมณ์เฉลยปัญหาถูกต้องแท้ด้วยอำนาจลัทธิของตน ด้วยประ-
12,0033,016,การฉะนี้. แต่พระผู้มีพระภาคเจ้าเพื่อจะทรงแสดงถึงพราหมณ์ผู้สูงสุดเป็น
12,0033,017,พิเศษ จึงได้ตรัสพระดำรัสเป็นต้นว่า อิเมสํ ปน ดังนี้.
12,0033,018,บทว่า พวกพราหมณ์ได้กล่าวคำนี้ ความว่า พวกพราหมณ์คิดว่า
12,0033,019,ถ้าพราหมณ์ผู้สมบูรณ์ด้วยชาติ วรรณะ และมนต์ไม่มี เมื่อเป็นเช่นนั้น
12,0033,020,ใคร่เล่าจักเป็นพราหมณ์ในโลก โสณทัณฑพราหมณ์นี้ทำให้พวกเรา
12,0033,021,ฉิบหาย เอาเถอะ เราจะกล่าวต่อต้านวาทะของเขา ดังนี้ จึงได้กล่าวคำนี้
12,0033,022,บทว่า กล่าวลบหลู่ คือ กล่าวต่อต้าน. บทว่า กล่าวคล้อยตามเข้าไป.
12,0033,023,พวกพราหมณ์กล่าวคำนี้ด้วยมีประสงค์ว่า ถ้าท่านใคร่จะถึงพระสมณโคดม