Book,Page,LineNumber,Text 12,0022,001,ชนทั้งหลายกล่าวคุณใด ๆ พวกเราจะแสดงสิ่งที่มิใช่คุณอย่างเดียวด้วยอำนาจ 12,0022,002,เป็นปฏิปักษ์ต่อคุณนั้น ๆ ดังนี้ จึงได้กล่าวอย่างนั้น. 12,0022,003,บทว่า มีรูปสวย คือ มีรูปงามยิ่ง ได้แก่มีรูปดียิ่งกว่าเหล่ามนุษย์ 12,0022,004,อื่นๆ. บทว่า น่าดู คือชื่อว่าน่าดู เพราะทำให้ไม่รู้จักอิ่มเอิบแก่ชนผู้ดูอยู่ 12,0022,005,แม้ตลอดวัน ชื่อว่าน่าเลื่อมใส เพราะให้เกิดความเลื่อมใสแห่งจิตด้วยการ 12,0022,006,ดูนั่นแหละ. ความดีงาม ท่านเรียกว่า ความสวย ความที่ผิวพรรณเป็น 12,0022,007,ของสวยงาม ชื่อว่า มีผิวพรรณสวยงาม ความว่า ประกอบด้วยวรรณ- 12,0022,008,สมบัตินั้น. แต่ท่านโบราณาจารย์ทั้งหลายกล่าวว่า ชนทั้งหลายเรียกสรีระ 12,0022,009,ว่า โปกขระ วรรณะนั่นแหละว่า วรรณะ. ตามมติของท่านโบราณาจารย์ 12,0022,010,เหล่านั้น วรรณะด้วยรูปร่าง ด้วยชื่อวรรณะรูปร่างความมีแห่งผิว 12,0022,011,พรรณและรูปร่าง เหล่านั้น ชื่อว่า ความมีผิวพรรณและรูปร่าง เขาประกอบ 12,0022,012,ด้วยความมีผิวพรรณและรูปร่างอย่างยิ่งด้วยประการฉะนี้ ความว่า ประกอบ 12,0022,013,ด้วยผิวพรรณและสมบัติแห่งสรีระสัณฐานอันบริสุทธิ์อย่างสูงสุด. 12,0022,014,บทว่า มีผิวพรรณดังพรหม คือ มีผิวพรรณอันประเสริฐสุด ความ 12,0022,015,ว่า ประกอบพร้อมด้วยผิวพรรณประดุจทองคำอันประเสริฐสุด แม้ในบรรดา 12,0022,016,ผู้มีผิวพรรณอันบริสุทธิ์ทั้งหลาย. บทว่า มีรูปร่างดังพรหม คือ ประกอบ 12,0022,017,พร้อมด้วยรูปร่างเช่นกับรูปร่างของท้าวมหาพรหม. บทว่า น่าดู น่าชม 12,0022,018,มิใช่น้อย คือ ช่องทางที่จะดูในรูปร่างของท่านผู้เจริญมิใช่เล็กน้อย คือ 12,0022,019,มาก. พราหมณ์ทั้งหลายแสดงว่า อวัยวะน้อยใหญ่ของท่านแม้ทุกส่วนเป็น 12,0022,020,ของน่าดู และอวัยวะน้อยใหญ่เหล่านั้นก็ใหญ่ด้วย ดังนี้. 12,0022,021,ศีลของบุคคลนั้นมีอยู่ เหตุนั้นเขาชื่อว่าเป็นผู้มีศีล ศีลที่เจริญแล้ว 12,0022,022,คืองอกงามแล้ว ของบุคคลนั้นมีอยู่ เหตุนั้นเขาชื่อว่าเป็นผู้มีศีลอันเจริญ 12,0022,023,แล้ว. บทว่า ด้วยศีลอันเจริญ คือ ด้วยศีลอันเจริญนั่นแหละ คือที่งอก