Book,Page,LineNumber,Text
12,0015,001,[๑๙๔]  พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า  ดูก่อนพราหมณ์  ข้อเป็นอย่าง 
12,0015,002,นั้น  ข้อนี้เป็นอย่างนั้น  ปัญญาอันศีลชำระให้บริสุทธิ์ ศีลอันปัญญาชำระ
12,0015,003,ให้บริสุทธิ์  ศีลมีในบุคคลใด  ปัญญาก็มีในบุคคลนั้น  ปัญญามีในบุคคลใด
12,0015,004,ศีลก็มีในบุคคลนั้น  ปัญญาเป็นของบุคคลผู้มีศีล  ศีลเป็นของผู้มีปัญญา
12,0015,005,และนักปราชญ์ย่อมกล่าวศีลกับปัญญาว่าเป็นยอดในโลก  เหมือนบุคคล
12,0015,006,ล้างมือด้วยมือ  หรือล้างเท้าด้วยฉะนั้น  ดูก่อนพราหมณ์  ศีลนั้นเป็นไฉน
12,0015,007,ปัญญานั้นเป็นไฉน.  พราหมณ์โสณทัณฑะกราบทูลว่า  ข้าแต่พระโคดมผู้
12,0015,008,เจริญ  พวกข้าพระองค์  มีความรู้เท่านี้เอง  เมื่อเนื้อความมีเช่นไร  ขอเนื้อ
12,0015,009,ความแห่งภาษิตนี้  จงแจ่มแจ้งแก่พระโคดมผู้เจริญเองเถิด.
12,0015,010,[๑๙๕]  พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า  ดูก่อนพราหมณ์  ถ้าอย่างนั้น
12,0015,011,ท่านจงฟัง  จงตั้งใจให้ดี  เราจักกล่าว.  พราหมณ์โสณทัณฑะรับสนอง
12,0015,012,พระพุทธพจน์แล้ว.  พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้กะพราหมณ์
12,0015,013,โสณทัณฑะว่า ดูก่อนพราหมณ์  พระตถาคตอุบัติขึ้นในโลกนี้เป็นพระอรหันต์
12,0015,014,ตรัสรู้เองโดยชอบ ฯ ล ฯ  (พึงดูพิสดารในสามัญญผลสูตร)  ดูก่อนพราหมณ์
12,0015,015,ก็ภิกษุเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีลอย่างนี้แล.  แม้ข้อนี้แล  คือศีลนั้น.  เข้าถึง
12,0015,016,ปฐมฌานอยู่.  เข้าถึงทุติยฌานอยู่.  เข้าถึงตติฌานอยู่.  เข้าถึงจตุตถฌาน
12,0015,017,อยู่ ฯ ล ฯ  เธอนำเฉพาะน้อมเฉพาะจิตเพื่อญาณทัสสนะ ฯ ล ฯ  แม้ข้อนี้จัด
12,0015,018,อยู่ในปัญญา  ของเธอ ฯ ล ฯ  เธอย่อมรู้ชัดว่า  กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้
12,0015,019,มิได้มี.  แม้ข้อนี้จัดอยู่ในปัญญาของเธอ. ดูก่อนพราหมณ์  นี้แลคือปัญญานั้น.
12,0015,020,<H1>โสณทัณฑพราหมณ์แสดงตนเป็นอุบาสก</H1>
12,0015,021,[๑๙๖]  เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว  พราหมณ์โสณ-
12,0015,022,ทัณฑะได้กราบทูลคำนี้กะพระผู้มีพระภาคเจ้า  ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ