Book,Page,LineNumber,Text
11,0002,001,ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า เสด็จเข้าประทับพักแรมราตรีหนึ่ง
11,0002,002,ณ พระตำนักหลวงในพระราชอุทยานอัมพลัฏฐิกา พร้อมด้วยภิกษุ
11,0002,003,สงฆ์. แม้สุปปิยปริพาชกก็ได้เข้าพักแรมราตรีหนึ่ง ใกล้พระตำหนักหลวง
11,0002,004,ในพระราชอุทยานอัมพลัฏฐิกา กับพรหมทัตตมาณพผู้เป็นอันเตวาสิก.
11,0002,005,ได้ยินว่า แม้ ณ ที่นั้น สุปปิยปริพาชกก็ยังกล่าวติพระพุทธเจ้า ติพระ
11,0002,006,ธรรม ติพระสงฆ์ โดยอเนกปริยาย. ส่วนพรหมทัตตมาณพ
11,0002,007,อันเตวาสิกของสุปปิยปริพาชก คงกล่าวชมพระพุทธเจ้า ชมพระธรรม
11,0002,008,ชมพระสงฆ์ โดยอเนกปริยาย. อาจารย์และอันเตวาสิกทั้งสองนั้น มี
11,0002,009,ถ้อยคำเป็นข้าศึกแก่กันและกันโดยตรงฉะนี้ เดินตามพระผู้มีพระภาคเจ้า
11,0002,010,และภิกษุสงฆ์ไปข้างหลัง ๆ.
11,0002,011,ครั้งนั้น ภิกษุหลายรูปลุกขึ้นในเวลาใกล้รุ่ง นั่งประชุมกัน ณ
11,0002,012,โรงกลม สนทนากันว่า ท่านทั้งหลาย เท่าที่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้รู้ผู้เห็น
11,0002,013,เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงทราบความที่หมู่สัตว์มี
11,0002,014,อัธยาศัยต่าง ๆ กันได้เป็นอย่างดีนี้ น่าอัศจรรย์ ไม่เคยมี ความจริง
11,0002,015,สุปปิยปริพาชกผู้นี้ กล่าวติพระพุทธเจ้า ติพระธรรม ติพระสงฆ์ โดย
11,0002,016,อเนกปริยาย ส่วนพรหมทัตตมาณพ อันเตวาสิกของสุปปิยปริพาชก
11,0002,017,กล่าวชมพระพุทธเจ้า ชมพระธรรม ชมพระสงฆ์ โดยอเนกปริยาย
11,0002,018,อาจารย์และอันเตวาสิกทั้งสองนี้ มีถ้อยคำเป็นข้าศึกแก่กันและกันโดยตรง
11,0002,019,ฉะนี้ เดินตามพระผู้มีพระภาคและภิกษุสงฆ์ไปข้างหลัง ๆ.
11,0002,020,ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบคำสนทนาของภิกษุ
11,0002,021,เหล่านั้นแล้ว เสด็จไปยังโรงกลมประทับนั่ง ณ อาสนะที่เขาจัดถวาย.
11,0002,022,ครั้นประทับนั่งแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อน