Book,Page,LineNumber,Text 06,0008,001,ทราบสันนิษฐานว่า คำนั้นท่านกล่าวตามทำนองโวหารที่ยกขึ้นแต่แรกนั่น เอง. 06,0008,002,ในคำอื่น ๆ นอกจากคำนี้ แม้อื่นอีกแต่เห็นปานนี้ก็นัยนั้น. 06,0008,003,ถามว่า ก็อะไรเป็นประโยชน์ในการกล่าวคำนั้นเล่า ?. 06,0008,004,ตอบว่า การแสดงเหตุทั้งแต่แรกแห่งวินัยกรรมทั้งหลาย มีบรรพชา 06,0008,005,เป็นต้น เป็นประโยชน์. 06,0008,006,จริงอยู่ ผู้ศึกษาพึงทราบว่า ประโยชน์ในการกล่าวคำนั้น ก็คือการ 06,0008,007,แสดงเหตุตั้งแต่แรกแห่งวินัยกรรมทั้งหลาย มีบรรพชาเป็นต้นเหล่านั้น อย่าง 06,0008,008,นี้ว่า บรรพชาและอุปสมบทอันใด ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอนุญาตอย่างนี้ 06,0008,009,ว่า ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตบรรพชาและอุปสมบทด้วยไตรสรณคมน์เหล่านี้ 06,0008,010,ดังนี้ และวัตรทั้งหลายมีอุปัชฌายวัตร อาจริยวัตรเป็นต้นเหล่าใด ซึ่งทรง 06,0008,011,อนุญาตในที่ทั้งหลายมีกรุงราชคฤห์เป็นต้น บรรพชาอุปสมบทและอุปัชฌาย- 06,0008,012,วัตรเป็นต้น เหล่านั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบรรลุอภิสัมโพธิญาณแล้ว ให้ 06,0008,013,๗ สัปคาห์ผ่านพ้นไปที่โพธิมัณฑ์ ทรงประกาศพระธรรมจักรในกรุงพาราณสี 06,0008,014,แล้ว เสด็จถึงสถานนี้ ๆ โดยลำดับนี้ ทรงบัญญัติแล้วเพราะเรื่องนี้ ๆ. 06,0008,015,ในบทเหล่านั้น บทว่า อุรุเวลายํ. ได้แก่ ที่แดนใหญ่. อธิบายว่า 06,0008,016,"ที่กองทรายใหญ่. อีกประการหนึ่ง ทราย เรียกว่าอุรุ, เขตคัน เรียกว่าเวลา." 06,0008,017,แลพึงเห็นความในบทนี้ อย่างนี้ว่า ทรายที่เขาขนมาเพราะเหตุที่ล่วงเขตคัน 06,0008,018,ชื่ออุรุเวลา. 06,0008,019,ได้ยินว่า ในอดีตสมัย เมื่อพระพุทธเจ้ายังไม่เสด็จอุบัติ กุลบุตรหมื่น 06,0008,020,คนบวชเป็นดาบสอยู่ที่ประเทศนั้น วันหนึ่งได้ประชุมกันทำกติกาวัตรไว้ว่า 06,0008,021,ธรรมดากายกรรม วจีกรรม เป็นของปรากฏแก่ผู้อื่นได้ ฝ่ายมโนกรรม หา