Book,Page,LineNumber,Text
02,0038,1,กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ เธอต้องอาบัติ
02,0038,2,ปาราชิกแล้ว.
02,0038,3, ๕. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งเห็นทรัพย์ในกลางวัน แล้วได้ทำ
02,0038,4,นิมิตไว้ด้วยหมายใจว่า จักลักในกลางคืน เธอเข้าใจทรัพย์นั้นแน่ แต่ลักทรัพย์
02,0038,5,ของตนมาแล้ว ได้มีความรังเกียจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกแล้ว กระมังหนอ
02,0038,6,จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ เธอไม่ต้อง
02,0038,7,อาบัติปาราชิก แต่ต้องอาบัติทุกกฏ.
02,0038,9,
เรื่องทรัพย์ที่ภิกษุนำไปเอง ๕ เรื่อง
02,0038,10, [๑๓๑] ๑. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่ง นำทรัพย์ของผู้อื่นไป
02,0038,11,มีไถยจิตจับต้องภาระบนศีรษะแล้ว ได้มีความรังเกียจว่า เราต้องอาบัติปาราชิก
02,0038,12,แล้วกระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อน
02,0038,13,ภิกษุ เธอไม่ต้องอาบัติปาราชิก แต่ต้องอาบัติทุกกฏ.
02,0038,14, . . . มีไถยจิตยังภาระบนศีรษะให้ไหว . . . พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
02,0038,15,ดูก่อนภิกษุ เธอไม่ต้องอาบัติปาราชิก แต่ต้องอาบัติถุลลัจจัย.
02,0038,16, . . . มีไถยจิตลดภาระบนศีรษะลงสู่คอ . . . พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
02,0038,17,ดูก่อนภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว.
02,0038,18, ๒. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งนำทรัพย์ของผู้อื่นไป มีไถยจิต
02,0038,19,จับต้องภาระที่คอแล้ว ได้มีความรังเกียจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกแล้วกระมัง-
02,0038,20,หนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ เธอ
02,0038,21,ไม่ต้องอาบัติปาราชิก แต่ต้องอาบัติทุกกฏ.
02,0038,22, . . . มีไถยจิตยังภาระที่คอให้ไหว . . . พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
02,0038,23,ดูก่อนภิกษุ เธอไม่ต้องอาบัติปาราชิก แต่ต้องอาบัติถุลลัจจัย.