Book,Page,LineNumber,Text 12,0028,001,เพราะเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่ามีศีลเป็นกุศล. คำว่า ด้วยศีลอันเป็นกุศลนี้ 12,0028,002,เป็นไวพจน์ของคำว่า มีศีลเป็นกุศลนั้น. 12,0028,003,บทว่า เป็นอาจารย์ และปาจารย์ ของคนเป็นอันมาก ความว่า 12,0028,004,ในการแสดงธรรมครั้งหนึ่ง ๆ ของพระผู้มีพระภาคเจ้า สัตว์มีประมาณ 12,0028,005,"๘๔,๐๐๐ และเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายหาประมาณมิได้ ย่อมได้ดื่มน้ำอมฤต " 12,0028,006,คือ มรรคและผล เพราะฉะนั้น พระองค์จึงจัดว่าเป็นอาจารย์ของคนเป็นอัน 12,0028,007,มาก และเป็นปาจารย์ของสาวกผู้เป็นเวไนย. 12,0028,008,ในบทว่า มีกามราคะสิ้นแล้วนี้ ความว่า กิเลสแม้ทั้งปวงของ 12,0028,009,พระผู้มีพระภาคเจ้าสิ้นไปแล้วโดยแท้. แต่พราหมณ์ไม่รู้กิเลสเหล่านั้น จึง 12,0028,010,กล่าวคุณไปในฐานะแห่งความรู้ของตนนั่นแหละ. บทว่า เลิกประดับตก- 12,0028,011,แต่งแล้ว คือเว้นจากการประดับตกแต่งที่ท่านกล่าวไว้อย่างนี้ว่า การตก- 12,0028,012,แต่งบาตร การตกแต่งจีวร การตกแต่งเสนาสนะ การเล่นสนุกสนานแห่ง 12,0028,013,ร่างกายอันเน่านี้. 12,0028,014,บทว่า ไม่ทรงมุ่งร้าย คือ แสดงความเคารพธรรมที่ไม่เป็นบาปคือ 12,0028,015,โลกุตรธรรม ๙ ประการ เที่ยวไป. บทว่า ต่อประชาชนที่เป็นพราหมณ์ คือ 12,0028,016,ต่อคนที่เป็นพราหมณ์ต่าง ๆ กันเป็นต้นว่า พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ 12,0028,017,และพระมหากัสสปะ และพระองค์เป็นผู้แสดงความนับถือประชาชนนั้น. 12,0028,018,อธิบายว่า ก็ประชาชนนี้กระทำพระสมณโคดมไว้เบื้องหน้าเที่ยวไป. อีก 12,0028,019,ประการหนึ่ง บทว่า ไม่ทรงมุ่งร้าย ความว่า ไม่ทรงกระทำบาปไว้เบื้องหน้า 12,0028,020,เที่ยวไป คือ ไม่ปรารถนาลามก. อธิบายว่า ไม่ทรงมุ่งร้ายต่อประชาชนที่ 12,0028,021,เป็นพราหมณ์นั้น คือต่อประชาชนที่เป็นพราหมณ์ แม้จะเป็นปฎิปักษ์กับตน 12,0028,022,คือเป็นผู้หวังประโยชน์สุขแต่อย่างเดียว.