Book,Page,LineNumber,Text 12,0019,001,บทว่า ที่ฝั่งแห่งสระโบกขรณีชื่อคัคครา มีความว่า ในที่ไม่ไกล 12,0019,002,เมืองจัมปานั้น มีสระโบกขรณีเรียกชื่อกันว่า คัคครา เพราะพระมเหสีของ 12,0019,003,พระราชาทรงพระนามว่า คัคคราทรงขุดไว้ โดยรอบฝั่งสระนั้นมีป่าต้นจัมปา 12,0019,004,ใหญ่ ประดับประดาด้วยดอกไม้ ๕ สี มีสีเขียวเป็นต้น พระผู้มีพระภาค- 12,0019,005,เจ้าเสด็จประทับอยู่ในป่าต้นจัมปา ซึ่งมีกลิ่นหอมระรื่นด้วยกลิ่นหอมของ 12,0019,006,ดอกไม้. ท่านมุ่งหมายเอาป่าต้นจัมปานั้น จึงกล่าวว่า ที่ฝั่งแห่งสระโบก- 12,0019,007,ขรณี ชื่อคัคครา. 12,0019,008,ในบทนี้ว่า พระเจ้าพิมพิสารผู้ครองแคว้นมคธมีเสนาใหญ่ พระ 12,0019,009,ราชาพระองค์นั้น ชื่อว่าผู้ครองแคว้นมคธ เพราะทรงเป็นผู้ใหญ่ของชาว 12,0019,010,แคว้นมคธ ชื่อว่ามีเสนาใหญ่ เพราะประกอบพร้อมด้วยเสนาใหญ่. บท 12,0019,011,ว่า พิมฺพิ แปลว่า ทองคำ. เพราะฉะนั้น ท่านจึงเรียกว่า พิมพิสาร 12,0019,012,เพราะเป็นผู้มีผิวพรรณเช่นเดียวกันทองคำแท้. ชนเป็นอันมากมารวมกัน 12,0019,013,เพราะเหตุนั้น ชื่อว่า หมู่. หมู่ชนในแต่ละทิศของชนเหล่านั้นมีอยู่ เพราะ 12,0019,014,เหตุนั้น ชนเหล่านั้นชื่อว่ามีหมู่. ครั้งแรกชนเหล่านั้นมิได้เป็นคณะกันใน 12,0019,015,ภายในเมือง แต่ออกไปนอกเมืองแล้ว จึงรวมกันเป็นคณะ เพราะเหตุนั้น 12,0019,016,ชื่อว่า รวมกันเป็นคณะ. 12,0019,017,บทว่า เรียกที่ปรึกษามา ความว่า มหาอำมาตย์ผู้สามารถเฉลย 12,0019,018,ปัญหาที่ถูกถามได้ เรียกว่า ขัตตะ (ที่ปรึกษา) เรียกที่ปรึกษาคนนั้นมา 12,0019,019,บทว่า อาคเมนฺตุ แปลว่า จงรอสักประเดี๋ยว หมายความว่าอย่าเพิ่งไป 12,0019,020,บทว่า ผู้อยู่ต่างแดน ความว่า พราหมณ์ทั้งหลายผู้เกิดในแดน 12,0019,021,ต่าง ๆ กัน คือในแดนมีแคว้นกาสี และแคว้นโกศล เป็นต้น คนละแห่ง 12,0019,022,แดนเหล่านั้นเป็นที่อยู่อาศัยของพวกเขา หรือว่า พวกเขามาจากแดนนั้น 12,0019,023,เพราะฉะนั้น พราหมณ์เหล่านั้นชื่อว่า ผู้อยู่ต่างแดน แห่งพราหมณ์ทั้ง