|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
49,0025,001,ไม่ยอมบอกกันและกันเลย ได้แยกกันไปสู่ที่ที่ตามความสำราญ.
|
|
49,0025,002,ก็ภิกษุผู้มักรังเกียจ มีมโนรถเต็มเปี่ยม เข้าไปบิณฑบาต
|
|
49,0025,003,ยังบ้าน พวกมนุษย์เห็นเข้า พากันกล่าวว่า พระเถระทั้งหลาย
|
|
49,0025,004,พากันไปไหนเสียครับ. ภิกษุนั้นกล่าวว่า พระเถระทั้งสองทะเลาะ
|
|
49,0025,005,กันและกันตลอดคืนยังรุ่ง ถึงอาตมาจะเตือนว่า อย่าทะเลาะกันเลยครับ
|
|
49,0025,006,จงสามัคคีกันไว้เถิด ขึ้นชื่อว่า การทะเลาะกันมีแต่จะนำความพินาศ
|
|
49,0025,007,มาให้ ก่อให้เกิดความทุกข์ในอนาคต เป็นทางแห่งอกุศล แม้คน
|
|
49,0025,008,สมัยก่อน ก็เคยพลาดจากประโยชน์ใหญ่ เพราะการทะเลาะกัน ดังนี้
|
|
49,0025,009,เป็นต้น ก็ไม่เชื่อคำของอาตมา พากันหลีกไป. ลำดับนั้น พวกมนุษย์
|
|
49,0025,010,วิงวอนว่า ขอพระเถระจงไปก่อนเถอะ แต่ท่านอย่ารำคาญอยู่ในที่นี้
|
|
49,0025,011,แหละ เพื่ออนุเคราะห์พวกกระผม. ท่านรับคำแล้ว อยู่ในที่นั้นนั่นเอง
|
|
49,0025,012,ต่อมา ๒-๓ วัน จึงคิดว่า เรายุยงภิกษุทั้งหลายผู้มีศีล มีกัลยาณธรรม
|
|
49,0025,013,ด้วยอยากเป็นเจ้าอาวาส เราขวนขวายแต่กรรมชั่วไว้มากหนอ จึง
|
|
49,0025,014,ถูกความเดือดร้อนอย่างแรงกล้าเข้าครอบงำ เป็นไข้เพราะกำลัง
|
|
49,0025,015,แห่งความเศร้าโศก ไม่นานนักก็มรณภาพ บังเกิดในอเวจีมหานรก.
|
|
49,0025,016,ฝ่ายพระเถระผู้เป็นสหายกัน ๒ รูป เที่ยวจาริกไปในชนบท
|
|
49,0025,017,มาพบกันในอาวาสแห่งหนึ่ง จึงปราศรัยกันและกัน จึงบอกคำยุยง
|
|
49,0025,018,ที่ภิกษุนั้นพูดแก่กันและกัน รู้ว่าเรื่องนั้นไม่เป็นจริง จึงได้พร้อมกัน
|
|
49,0025,019,กลับมายังอาวาสนั้นนั่นแล โดยลำดับ. พวกมนุษย์เห็นพระเถระ
|
|
49,0025,020,ทั้ง ๒ รูปแล้ว พากันปลื้มใจ เกิดความดีใจ อุปัฏฐากด้วยปัจจัย ๔.
|
|
49,0025,021,ก็พระเถระทั้ง ๒ รูป เมื่ออยู่ในที่นั้นนั่นแหละ มีจิตเป็นสมาธิ เพราะ
|
|
|