|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
49,0024,001,จึงเข้าไปหาพระมหาเถระ. ไหว้แล้ว และเมื่อพระเถระถามว่า
|
|
49,0024,002,ทำไม คุณมาผิดกาลเวลา จึงตอบว่า ครับ ผมมีเรื่องที่จะพูดอยู่
|
|
49,0024,003,อย่างหนึ่ง พระเถระจึงอนุญาตว่า เล่าไปซิคุณ จึงเรียนว่า ท่านครับ
|
|
49,0024,004,พระเถระผู้เป็นสหายของท่านนั่น ต่อหน้า (ท่าน) แสดงตนเหมือน
|
|
49,0024,005,เป็นมิตร พอลับหลังก็กล่าวให้ร้ายคล้ายศัตรู. ถูกพระเถระถามว่า
|
|
49,0024,006,เขาพูดว่าอย่างไร จึงเรียนว่า ฟังนะครับ พระมหาเถระรูปนั่น
|
|
49,0024,007,กล่าวโทษทานว่า เป็นผู้โอ้อวด มีมายา หลอกลวง เลี้ยงชีพด้วย
|
|
49,0024,008,"มิจฉาชีพ. พระเถระตอบว่า อย่าพูดอย่างนั้นซิคุณ, ภิกษุรูปนั้น"
|
|
49,0024,009,จักไม่ว่าเราถึงอย่างนั้น ตั้งแต่เวลาเป็นคฤหัสถ์มาแล้ว เธอรู้สภาวะ
|
|
49,0024,010,ของเราว่า มีศีลเป็นที่รัก มีกัลยาณธรรม. ภิกษุนั้นกล่าวว่า ท่าน
|
|
49,0024,011,ครับ ถ้าท่านคิดอย่างนั้น เพราะค่าที่ตนมีจิตบริสุทธิ์ ข้อนั้นเหมาะ
|
|
49,0024,012,แก่ท่านทีเดียว แต่ผมก็ไม่มีเวรกับพระมหาเถระนั้น ทำไม ผมจึง
|
|
49,0024,013,จะได้กล่าวคำที่พระมหาเถระไม่กล่าวว่า กล่าว ช่างเถอะ ท่านเอง
|
|
49,0024,014,นั่นแหละ จักรู้ในเวลาต่อไป. ฝ่ายพระเถระเกิดสองอกสองใจ
|
|
49,0024,015,เพราะค่าที่ตนเป็นปุถุชน เกิดมีความรังเกียจว่า เห็นที่จะเป็นอย่างนั้น
|
|
49,0024,016,จึงได้คลายความไว้วางใจไปหน่อยหนึ่ง. ภิกษุนั้น เป็นคนพาล
|
|
49,0024,017,ชั้นแรกยุยงพระมหาเถระแล้ว ไปยุยงพระเถระอีกรูปหนึ่ง โดย
|
|
49,0024,018,นัยดังกล่าวแล้วนั่นแล. ลำดับนั้น พระเถระทั้งสองนั้น ในวันที่ ๒
|
|
49,0024,019,ไม่ได้พูดกัน ต่างถือบาตรและจีวร เข้าไปบิณฑบาตในบ้าน ถือ
|
|
49,0024,020,บิณฑบาตมาฉันในที่พักของตนนั่นเอง แม้มาตรว่าสามีจิกรรม
|
|
49,0024,021,ก็ไม่ยอมทำ ตลอดวันนั้น อยู่ในที่นั้นนั่นแหละ และพอราตรีสว่าง
|
|
|