tripitaka-mbu / 49 /490018.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
49,0018,001,ได้ยินว่า ในอดีตกาล ในศาสนาของพระผู้มีพระภาคเจ้า
49,0018,002,ทรงพระนามว่า กัสสปะ ได้มีภิกษุรูปหนึ่งเป็นผู้สำรวมทางกาย
49,0018,003,แต่ไม่สำรวมทางวาจา ด่าปริภาษภิกษุทั้งหลาย มรณภาพแล้ว
49,0018,004,ไปบังเกิดในนรก ไหม้ในนรกนั้น สิ้นพุทธันดรหนึ่ง จุติจากนรก
49,0018,005,นั้นแล้ว ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดเป็นเปรต ถูกความหิวกระหาย
49,0018,006,ครอบงำ ด้วยเศษวิบากของกรรมนั้นนั่นแล ณ เชิงเขาคิชฌกูฏ
49,0018,007,ใกล้กรุงราชคฤห์. ร่างของเปรตนั้นได้มีสีเหมือนทองคำ. แต่หน้า
49,0018,008,ของเปรตนั้น เหมือนหน้าสุกร. ลำดับนั้น ท่านพระนารทะ อยู่ที่
49,0018,009,เขาคิชฌกูฏ ชำระร่างกายแต่เช้าตรู่ ถือบาตรและจีวร กำลัง
49,0018,010,เที่ยงบิณฑบาต ยังกรุงราชคฤห์ พบเปรตนั้นในระหว่างทาง
49,0018,011,เมื่อจะถามถึงกรรมที่เปรตนั้นทำ จึงกล่าวคาถาว่า
49,0018,012,<B>กายของท่านล้วนมีสีดุจทองคำ รัศมีกาย
49,0018,013,ของท่านสว่างไสวไปทุกทิศ แต่หน้าของท่าน
49,0018,014,เหมือนหน้าสุกร เมื่อก่อนท่านได้ทำกรรมอะไร
49,0018,015,ไว้.</B>
49,0018,016,บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า <B>กาโย เต สพฺพโส วณฺโณ</B> ความว่า
49,0018,017,กายคือร่างของท่าน ล้วนมีสีดุจทองคำ คือ คล้ายทองคำที่สุกปลั่ง.
49,0018,018,บทว่า <B>สพฺพา โอภาสเต ทิสา</B> ความว่า รัศมีกายของเขาว่างไสว
49,0018,019,โชติช่วง ไปโดยรอบทั่วทุกทิศ. อีกอย่างหนึ่ง ในคำว่า บทว่า
49,0018,020,โอภาสเต นี้ มีเหตุเป็นเครื่องหยั่งลงในภายในเป็นอรรถ พึงเห็น
49,0018,021,ความว่า กายของท่านล้วนมีสีดุจทองคำ สว่างไสว โชติช่วงไปทั่ว