tripitaka-mbu / 46 /460036.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
46,0036,001,คาถานี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงแล้ว ด้วยยอดคือพระอรหัต ด้วย
46,0036,002,ประการฉะนี้ ก็ในที่สุดแห่งเทศนา ภิกษุนั้นดำรงอยู่แล้วในพระอรหัต.
46,0036,003,ถามว่า คาถาที่ว่า <B>โย ตณฺหมุทจฺฉิทา</B> เป็นต้น มีเหตุเกิดขึ้น
46,0036,004,เป็นอย่างไร ?
46,0036,005,ตอบว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่เมืองสาวัตถี ภิกษุรูปหนึ่ง
46,0036,006,อยู่ที่ฝั่งสระโปกขรณี ชื่อ คัคครา กำลังตรึกอกุศลวิตกอยู่ด้วยอำนาจของตัณหา
46,0036,007,พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบอัธยาศัยของท่าน จึงได้ทรงภาษิตโอภาสคาถานี้.
46,0036,008,ในพระคาถานั้น ที่ชื่อว่าตัณหา เพราะอรรถว่าเป็นเครื่องสะดุ้ง (แห่ง
46,0036,009,หมู่สัตว์) อธิบายว่า หมู่สัตว์ย่อมไม่ถึงความอิ่ม ด้วยอารมณ์ทั้งหลาย คำว่า
46,0036,010,ตัณหานี้ เป็นชื่อของกามตัณหา ภวตัณหา และวิภวตัณหา.
46,0036,011,บทว่า <B>สุรตํ</B> ได้แก่ไปแล้ว คือ เป็นไปแล้ว มีคำอธิบายว่า ท่วมทับ
46,0036,012,สัตวโลก ตั้งแต่ภวัครพรหมดำรงอยู่.
46,0036,013,บทว่า <B>สีฆสรํ</B> ได้แก่มี ปกติไปรวดเร็ว มีคำอธิบายว่า ตัณหาซึ่งไม่
46,0036,014,คำนึงถึงโทษ ที่เป็นไปในปัจจุบันและสัมปรายภพ สามารถเพื่อจะให้ถึงจักรวาล
46,0036,015,อื่นบ้าง ภวัครพรหมบ้าง โดยครู่เดียวเท่านั้น.
46,0036,016,ผู้ใดทำตัณหานี้ ซึ่งซ่านไปอย่างรวดเร็ว แม้โดยประการทั้งปวง
46,0036,017,ให้เหือดแห้งไปทีละน้อย ๆ โดยการพิจารณาถึงโทษอย่างนี้ว่า
46,0036,018,<B>ก็ชนเหล่าใดปรารถนาอยู่ ซึ่งตัณหา
46,0036,019,อันกว้างขวางในเบื้องบน อันบุคคลให้เต็ม
46,0036,020,ได้โดยยาก อันมีปกติซ่านไป ย่อมติดมั่น
46,0036,021,ตัณหานั้น ชนเหล่านั้น ย่อมเป็นผู้ทรงไว้
46,0036,022,ซึ่งจักร (ล้อ)</B> ว่า