tripitaka-mbu / 23 /230049.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
23,0049,001,<B>เมื่อล่วงพ้นจากอัตภาพนี้ไป ขอจง
23,0049,002,ไปสวรรค์ ไปถึงชั้นดุสิตอันเป็นชั้นวิเศษ
23,0049,003,ไม่พึงกลับจากนั้น พรนี้เป็นพรที่ ๘.</B>
23,0049,004,จำเดิมแต่นั้นมา ก็รู้ว่าเราจักเกิดในดุสิตพิภพ. นี้จัดเป็นสัมปชัญญะ ใน
23,0049,005,มนุษยโลก. ก็แลพระองค์ ทรงจุติจากอัตตภาพพระเวสสันดรแล้ว บังเกิดใน
23,0049,006,ภาพดุสิต ได้รู้ตัวว่า เราเกิดแล้ว ดังนี้ เป็นสัมปชัญญะในเทวโลก.
23,0049,007,ถามว่า ก็เทวดาที่เหลือทั้งหลายไม่รู้หรือ. ตอบว่า จะไม่รู้ก็หามิได้
23,0049,008,แต่เทวดาเหล่านั้น ต้องแลดูต้นกัลปพฤกษ์ใกล้วิมานในอุทยาน ที่เหล่าเทพ
23,0049,009,อัปสรผู้ฟ้อนรำปลุกให้ตื่นด้วยเสียงทิพยดุริยางค์ได้ระลึกว่า ท่านผู้นิรทุกข์ นี้เป็น
23,0049,010,เทวโลก ท่านเกิดในเทวโลกนี้แล้ว ดังนี้ จึงจะรู้. พระโพธิสัตว์ไม่รู้ในปฐม
23,0049,011,ชวนวาร. นับแต่ทุติยชวนวารไปถึงจะรู้. การรู้ของพระองค์ไม่สาธารณะทั่วไป
23,0049,012,เหมือนคนอื่น ดังพรรณนามาฉะนี้. ในบทว่า <B>อฏฺ€าสิ</B> นี้ ความว่า แม้เทวดา
23,0049,013,เหล่าอื่น ถึงจะดำรงอยู่ในภพนั้น ก็ย่อมรู้ตัวว่า พวกเราดำรงอยู่แล้ว ก็จริง
23,0049,014,แต่เทวดาเหล่านั้น ถูกอิฏฐารมณ์ที่มีกำลังในทวารทั้ง ๖ ครอบงำอยู่ ขาดสติ
23,0049,015,ไม่รู้แม้สิ่งที่คนบริโภคแล้ว ดื่มแล้ว ย่อมทำกาละเพราะขาดอาหาร.
23,0049,016,ถามว่า พระโพธิสัตว์ไม่มีอารมณ์อย่างนั้นหรือ. ตอบว่า ไม่มีก็หา
23,0049,017,มิได้. ด้วยว่าพระองค์ย่อมอยู่เหนือเทวดาที่เหลือโดยฐานะ ๑๐. ก็พระองค์ไม่
23,0049,018,ย่อมให้อารมณ์ย่ำยีพระองค์ข่มอารมณ์นั้นตั้งอยู่ได้. เพราะเหตุนั้น จึงตรัสว่า
23,0049,019,<B>สโต สมฺปชาโน อานนฺท โพธิสตฺโต ดุสิเต กาเย อฏฺ€าสิ</B>
23,0049,020,บทว่า <B>ยาวตายุกํ</B> ถามว่า ในอัตภาพที่เหลือ พระโพธิสัตว์
23,0049,021,ไม่ดำรงอยู่จนตลอดอายุหรือ. ตอบว่า ใช่แล้วไม่ดำรงอยู่ตลอดอายุ. ก็ใน
23,0049,022,กาลอื่น ๆ พระโพธิสัตว์บังเกิดในเทวโลก ที่เทวดามีอายุยืน ไม่อาจบำเพ็ญ-