|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
15,0033,001,เมื่อมาเป็นอย่างนี้แล้ว จึงออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต เมื่อบวช
|
|
15,0033,002,แล้วอาศัยความเพียรเป็นเครื่องเผากิเลส อาศัยความเพียรเป็นที่ตั้งมั่น
|
|
15,0033,003,อาศัยความประกอบเนือง ๆ อาศัยความไม่ประมาท อาศัยมนสิการโดย
|
|
15,0033,004,ชอบ แล้วบรรลุเจโตสมาธิ เมื่อจิตตั้งมั่นแล้ว ย่อมตามระลึกถึงความเกิดขึ้น
|
|
15,0033,005,แห่งสัญญานั้นได้ หลังแต่นั้นไประลึกไม่ได้. เขาจึงกล่าวอย่างนี้ว่า อัตตา
|
|
15,0033,006,และโลกเกิดขึ้นลอย ๆ ข้อนั้นเป็นเพราะอะไร เพราะว่าเมื่อก่อนข้าพเจ้า
|
|
15,0033,007,ไม่ได้มีแล้ว (ไม่มีสัญญา) เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้านั้นไม่มี เพราะน้อมไปเพื่อความ
|
|
15,0033,008,เป็นผู้สงบ. ก็พวกท่านบัญญัติสิ่งที่โลกสมมติว่าเลิศ ถือกันว่าเกิดขึ้นลอยๆ
|
|
15,0033,009,ตามลัทธิอาจารย์ มีแบบเช่นนี้หรือ. สมณพราหมณ์เหล่านั้น ตอบอย่างนี้
|
|
15,0033,010,ว่า ท่านโคดม พวกข้าพเจ้าก็ได้ทราบมาดังที่ท่านโคดมได้กล่าวมานี้แล.
|
|
15,0033,011,ภัคควะเราย่อมทราบชัดสิ่งที่โลกสมมติว่าเลิศ ทั้งรู้ชัดยิ่งกว่านั้น และ
|
|
15,0033,012,ไม่ยึดมั่นความรู้ชัดนั้นด้วย. เมื่อไม่ยึดมั่น จึงทราบความดับเฉพาะตน
|
|
15,0033,013,ฉะนั้น ตถาคตจึงไม่ถึงทุกข์.
|
|
15,0033,014,<H1>กถาว่าด้วยสุภวิโมกข์</H1>
|
|
15,0033,015,[๑๗] <B>ภัคควะ</B> สมณพราหมณ์บางพวกกล่าวตู่เรา ซึ่งกล่าว
|
|
15,0033,016,อยู่อย่างนี้ ด้วยคำที่ไม่มีจริง ด้วยคำเปล่า ด้วยคำมุสา ด้วยคำที่ไม่เป็น
|
|
15,0033,017,จริง พระสมณโคดมตรัสอย่างนี้ว่า สมัยใด พระโยคาวจรเข้าสุภวิโมกข์
|
|
15,0033,018,อยู่. สมัยนั้น ย่อมทราบชัดสิ่งทั้งปวงว่าไม่งาม. ภัคควะ ก็เราไม่ได้กล่าว
|
|
15,0033,019,อย่างนี้เลยว่า สมัยใด พระโยคาวจรย่อมเข้าสุภวโมกข์อยู่. สมัยนั้น ย่อม
|
|
15,0033,020,ทราบชัดสิ่งทั้งปวงว่าไม่งาม. แต่เราย่อมกล่าวอย่างนี้ว่า สมัยใด พระ
|
|
15,0033,021,โยคาวจรย่อมเข้าสุกวิโมกข์อยู่ สมัยนั้น ย่อมทราบชัดแต่สิ่งที่ดีงามเท่า
|
|
15,0033,022,นั้น. สละ ผู้ที่ชื่อว่าวิปริตไปแล้ว ก็คือผู้ที่กล่าวร้ายพระผู้มีพระภาค
|
|
15,0033,023,และพวกภิกษุ เพราะตนวิปริตไปเองได้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระ
|
|
|