|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
14,0040,001,ทั้งหลาย ในสมัยนั้น พวกเทพชาวดาวดึงส์ก็พากันดีใจว่า บัดนี้ ไม้ปาริฉัตร
|
|
14,0040,002,คือไม้ทองหลาง มีใบเหลืองแล ไม่นานหรอกจักสลัดใบเหลืองทิ้ง ภิกษุทั้ง
|
|
14,0040,003,หลาย ในสมัยใด ไม้ปาริฉัตร คือไม้ทองหลาง ของพวกเทพชาวดาวดึงส์
|
|
14,0040,004,สลัดใบเหลืองทิ้งแล้ว เริ่มเป็นตุ่มดอก เริ่มผลิดอก เป็นดอกดม เป็นดอก
|
|
14,0040,005,แย้ม ภิกษุทั้งหลาย ในสมัยนั้น พวกเทพชาวดาวดึงส์ ก็พากันดีใจว่า บัดนี้
|
|
14,0040,006,ไม้ปาริฉัตร คือไม้ทองหลาง เป็นดอกแย้ม ไม่นานหรอกจักบานสะพรั่งหมด
|
|
14,0040,007,ก็แล ภิกษุทั้งหลาย รัศมีครอบคลุมไป ๕๐ โยชน์โดยรอบต้นปาริฉัตร คือ
|
|
14,0040,008,ไม้ทองหลางที่บานสะพรั่ง กลิ่นพัดไปตามลม ๑๐๐ โยชน์. นี้เป็นอานุภาพ
|
|
14,0040,009,แห่งต้นปาริฉัตร คือไม้ทองหลาง.<SUP>๑</SUP>
|
|
14,0040,010,เมื่อไม้ปาริฉัตรบานแล้ว กิจด้วยการพาดพะอง กิจด้วยการเอาขอ
|
|
14,0040,011,เกี่ยวโน้มมา หรือกิจด้วยการเอาผอบไปรับเพื่อนำเอาดอกไม้มาไม่มี. ลมที่
|
|
14,0040,012,ทำหน้าที่เด็ดตั้งขึ้นแล้วก็เด็ดดอกไม้จากขั้ว ลมที่ทำหน้าที่รับก็รับไว้ ลมที่ทำ
|
|
14,0040,013,หน้าที่หอบส่งก็ส่งเข้าไปสู่สุธรรมาเทวสภา. ลมที่ทำหน้าที่กวาดก็กวาดเอาดอก
|
|
14,0040,014,ไม้เก่าทิ้ง. ลมที่ทำหน้าที่ปูลาดก็จัดแจงปูลาดใบฝักและเกสร. ที่ตรงกลางมี
|
|
14,0040,015,ธรรมาสน์ มีบัลลังก์แก้วสูงขนาดโยชน์ มีเสวตฉัตรสูงสามโยชน์กั้นไว้ข้างบน
|
|
14,0040,016,ถัดจากบัลลังก์นั้น ก็ปูอาสนะท้าวสักกเทวราช. ถัดนั้นมาก็เป็นอาสนะของเทพ
|
|
14,0040,017,บุตรอีกสามสิบสามองค์. ถัดนั้นมาก็เป็นอาสนะของเทพบุตรผู้มีศักดิ์ใหญ่ ๆ
|
|
14,0040,018,เหล่าอื่น. สำหรับ เทพเหล่าอื่นก็ใช้ฝักดอกไม้เป็นอาสนะ. พวกเทวดาเข้าสู่
|
|
14,0040,019,เทวสภาเเล้วนั่งอยู่. เกลียวละอองดอกไม้ฟุ้งไปจรดฝักเบื้องบนแล้วตกมาทำให้
|
|
14,0040,020,อัตภาพประมาณสามคาวุตของเทวดาทั้งหลายเหมือนชโลมด้วยน้ำครั่ง. พวก
|
|
14,0040,021,เทวดาเหล่านั้นเล่นกีฬานั้นสี่เดือนจึงสิ้นสุดลง. พวกเทวดาย่อมประชุมกัน เพื่อ
|
|
14,0040,022,ประโยชน์แก่การเสวย ปาริฉัตรตกกีฬาด้วยประการฉะนี้.
|
|
|