tripitaka-mbu / 12 /120036.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
12,0036,001,ดำริว่า เราจักไม่ไหว้. พระเถระกล่าวว่า เพราะเหตุไร ผู้มีอายุ. ภิกษุหนุ่ม
12,0036,002,ผู้อุปฐากกล่าวตอบว่า เพราะทรงสดับเสียงร้องครวญครางของท่าน
12,0036,003,พระเถระกล่าวว่า ถ้ากระนั้น พวกเธอจงให้โอกาสแก่เรา ดังนี้แล้ว
12,0036,004,ข่มเวทนาเสียได้บรรลุพระอรหัต จึงให้สัญญาแก่ภิกษุหนุ่มว่า ผู้มีอายุ ท่าน
12,0036,005,จงไป บัดนี้ท่านจงให้พระราชามาไหว้เราได้. ภิกษุหนุ่มไปแล้ว ทูลว่า
12,0036,006,นัยว่า บัดนี้ขอพระองค์จงทรงไหว้พระเถระเถิด พระราชา เมื่อจะทรงไหว้
12,0036,007,พระเถระด้วยการพังพาบดุจจรเข้ จึงตรัสว่า ข้าพเจ้ามิได้ไหว้พระอรหัต
12,0036,008,ของพระผู้เป็นเจ้า แต่ไหว้ท่านผู้ที่ดำรงอยู่ในภูมิแห่งปุถุชน แต่รักษา
12,0036,009,ศีลต่างหาก ดังนี้. บุคคลชื่อว่า ชำระปัญญาด้วยศีล ด้วยประการฉะนี้.
12,0036,010,ก็ในภายในของผู้ใด การสำรวมในศีลไม่มี แต่เพราะเหตุที่ตนเป็น
12,0036,011,ผู้รู้ในฉับพลัน ในที่สุดแห่งคาถาประกอบด้วยสี่บท เขาผู้นั้นชำระศีลด้วย
12,0036,012,ปัญญาแล้ว บรรลุอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทา. ผู้นี้ชื่อว่าชำระศีลด้วยปัญญา
12,0036,013,เหมือนสันตติมหาอำมาตย์.
12,0036,014,เพราะเหตุไร พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า พราหมณ์ ก็ศีลนั้นเป็น
12,0036,015,ไฉน. ได้ยินว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงดำริว่า พราหมณ์ทั้งหลาย ย่อม
12,0036,016,บัญญัติศีล ๕ ว่าเป็นศีล ย่อมบัญญัติความรอบรู้ในไตรเทพว่าเป็นปัญญา
12,0036,017,ในลัทธิของพราหมณ์ ไม่รู้สิ่งที่วิเศษเห็นขึ้นไป ถ้ากระไรเราพึงแสดง
12,0036,018,มรรคศีล ผลศีล มรรคปัญญา และผลปัญญา ที่เป็นของวิเศษยิ่ง แก่
12,0036,019,พราหมณ์ พึงให้เทศนาจบลงด้วยยอดคืออรหัต ดังนี้. ลำดับนั้น พระองค์
12,0036,020,เมื่อจะตรัสถามพราหมณ์ด้วย<B>กเถตุกามยตาปุจฉา</B> (ถามโดยมีพระประสงค์จะ
12,0036,021,ทรงตอบเอง) จึงตรัสว่า พราหมณ์ ศีลนั้นเป็นไฉน ปัญญานั้นเป็นไฉน
12,0036,022,ดังนี้.