tripitaka-mbu / 06 /060013.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
06,0013,001,บทว่า <B>สพฺพา</B> มีความว่า ความสงสัยในปัจจยาการที่ท่านกล่าวไว้
06,0013,002,โดยนัยเป็นต้นว่า เมื่อเขาถามว่า ใครเล่าหนอ ? ย่อมถูกต้องพระเจ้าข้า พระ-
06,0013,003,ผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า ปัญหาไม่สมควรแก้<SUP>๑</SUP> ดังนี้ และโดยนัยเป็นต้นว่า
06,0013,004,เมื่อเขาถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญก็ชราและมรณะเป็นอย่างไรหนอ. ก็แล
06,0013,005,ชราและมรณะนี้จะมีแก่ใคร ?. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า ปัญหาไม่สมควร
06,0013,006,แก้. ดังนี้ <SUP>๒</SUP> และความสงสัย ๑๖ อย่างเป็นต้นว่า ในอดีตกาลเราได้มีแล้ว
06,0013,007,หรือหนอ ? ซึ่งมาแล้วเพราะยังไม่ได้ตรัสรู้ปัจจยาการนั่นเอง (เหล่านี้) ทั้งหมด
06,0013,008,ย่อมสิ้นไป คือย่อมปราศจากไป ย่อมดับไป. เพราะเหตุไร ? เพราะเหตุที่
06,0013,009,มาทราบธรรมพร้อมทั้งเหตุ. มีอธิบายว่า เพราะทราบ คือทราบชัด ตรัสรู้
06,0013,010,ธรรมคือกองทุกข์ทั้งมวล มีสังขารเป็นต้นพร้อมทั้งเหตุ ด้วยเหตุมีอวิชชา
06,0013,011,เป็นต้น.
06,0013,012,พึงทราบวินิจฉัยในทุติยวาร:-
06,0013,013,สามบทว่า <B>อิมํ อุทานํ อิทาเนสิ</B> มีความว่า ทรงเปล่งอุทาน
06,0013,014,มีประการดังกล่าวแล้วนี้ ซึ่งแสดงอานุภาพแห่งความตรัสรู้ ความสิ้นปัจจัย
06,0013,015,กล่าวคือนิพพานซึ่งปรากฏแล้วอย่างนี้ว่า <B>อวิชฺชาย เตฺวว อเสสวิราคนิโรธา
06,0013,016,สงฺขารนิโรโธ</B> ในเนื้อความที่ทรงทราบแล้วนั้น.
06,0013,017,ความสังเขปในอุทานนั้นดังนี้ต่อไปนี้:-
06,0013,018,เพราะได้รู้ คือได้ทราบชัดได้ตรัสรู้นิพพานกล่าวคือความสิ้นปัจจัย
06,0013,019,ทั้งหลาย เมื่อใดธรรมทั้งหลายมีประการดังกล่าวแล้วปรากฏแก่พราหมณ์นั้น
06,0013,020,ผู้มีเพียรเพ่งอยู่ เมื่อนั้น ความสงสัยทุกอย่างที่จะพึงเกิดขึ้นเพราะไม่รู้นิพพาน
06,0013,021,ย่อมสิ้นไป.