tripitaka-mbu / 05 /050014.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
05,0014,001,ภิกษุณีนั้น ถ้าภิกษุณีจับต้อง ภิกษุเป็นผู้นิ่งไม่ไหวติงแต่ยินดีด้วยจิต พระวินัย-
05,0014,002,ธรไม่ควรปรับภิกษุด้วยอาบัติ. ถ้าภิกษุจับต้อง ภิกษุณีเป็นผู้นิ่งไม่ไหวติง
05,0014,003,แต่ยินดี (ยอมรับ) ด้วยจิตอย่างเดียว แม้ไม่ให้ส่วนแห่งกายไหว พระวินัยธร
05,0014,004,ก็พึงปรับด้วยปาราชิกในเขตแห่งปาราชิก ด้วยถุลลัจจัยในเขตแห่งถุลลัจจัย
05,0014,005,ด้วยทุกกฏในเขตทุกกฏ. เพราะเหตุไร ? เพราะพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า
05,0014,006,ยินดีการเคล้าคลึงด้วยกาย. นี้เป็นวินิจฉัย ในอรรถกถาทั้งหลาย. ก็เมื่อมีวินิจฉัย
05,0014,007,อย่างนี้ ความที่สิกขาบทนี้มีการทำเป็นสมุฏฐาน ไม่ปรากฏให้เห็น เพราะเหตุ
05,0014,008,นั้นความที่สิกขาบทมีการทำเป็นสมุฏฐานนั้น บัณฑิตพึงทราบว่า พวกอาจารย์
05,0014,009,กล่าวไว้โดยนัย คือความที่สิกขาบทนั้นมีการทำเป็นสมุฏฐานทั้งนั้นเป็นส่วน
05,0014,010,มาก.
05,0014,011,บทว่า <B>อุพฺภกฺขกํ</B> แปลว่า เบื้องบนแห่งรากขวัญทั้งสอง.
05,0014,012,บทว่า <B>อโธชานุมณฺฑลํ</B> แปลว่า ภายใต้แห่งมณฑลเข่าทั้งสอง. อนึ่ง
05,0014,013,แม้เหนือข้อศอกขึ้นมา ท่านก็สงเคราะห์เข้าด้วยเหนือมณฑลเข่าเหมือนกัน ใน
05,0014,014,บทว่า <B>อโรชานุมณฑลํ</B> นี้.
05,0014,015,ในคำ <B>เอกโต อวสฺสุเต</B> นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสคำว่า <B>เอกโต</B>
05,0014,016,"ไว้โดยไม่แปลกกัน แม้ก็จริง, ถึงอย่างนั้น บัณฑิตพึงทราบว่า เมื่อภิกษุณีมี"
05,0014,017,ความกำหนัดเท่านั้น ความต่างแห่งอาบัตินี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสไว้.
05,0014,018,ในสิกขาบทนี้ มีวินิจฉัยตั้งแต่ต้นดังต่อไปนี้ :- ภิกษุณีกำหนัดด้วย
05,0014,019,ความกำหนัดในการเคล้าคลึงกาย ถึงบุรุษก็อย่างนั้นเหมือนกัน เมื่อมีความยิน
05,0014,020,ดีในการเคล้าคลึงกาย ในกายประเทศตั้งแต่รากขวัญลงมา เหนือมณฑลเข่าขึ้น
05,0014,021,ไป เป็นปาราชิกแก่ภิกษุณี. ภิกษุณีมีความกำหนัดในการเคล้าคลึงกาย. ฝ่าย
05,0014,022,บุรุษมีความกำหนัดไม่เมถุน หรือมีความรักอาศัยเรือน หรือมีจิตบริสุทธิ์ก็ตาม