|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
02,0002,1,เพื่อบิณฑบาต แม้ครั้งที่สอง คนหาบหญ้า คนหาฟืน ก็ได้รื้อกุฎีมุงบังด้วย
|
|
02,0002,2,หญ้าเสีย แล้วขนหญ้าและตัวไม้ไป.
|
|
02,0002,3, แม้ครั้งที่สาม ท่านพระธนิยะ กุมภการบุตร ก็ได้เที่ยวหาหญ้าและ
|
|
02,0002,4,ไม้มาทำกุฎีมุงบังด้วยหญ้าอีก เมื่อท่านพระธนิยะ กุมภการบุตร เข้าไปบ้าน
|
|
02,0002,5,เพื่อบิณฑบาต แม้ครั้งที่สาม คนหาบหญ้า คนหาฟื้น ก็ได้รื้อกุฎีมุงบังด้วย
|
|
02,0002,6,หญ้าเสีย แล้วขนหญ้าและตัวไม้ไปอีก.
|
|
02,0002,7, หลังจากนั้น ท่านพระธนิยะ กุมภการบุตร ได้มีความคิดว่า เมื่อ
|
|
02,0002,8,เราเข้าไปบ้านเพื่อบิณฑบาต คนหาบหญ้า คนหาฟืน ได้รื้อกุฎีมุงบังด้วยหญ้า
|
|
02,0002,9,เสีย แล้วขนหญ้าและตัวไม้ไปถึงสามครั้งแล้ว ก็เรานี่แหละ เป็นผู้ได้ศึกษา
|
|
02,0002,10,มาดีแล้วไม่บกพร่องเป็นผู้สำเร็จศิลปะในการช่างหม้อเสมอด้วยอาจารย์ของตน
|
|
02,0002,11,ผิฉะนั้น เราพึงขยำโคลนทำกุฎีสำเร็จด้วยดินล้วนเสียเอง จึงท่านพระธนิยะ
|
|
02,0002,12,กุมภการบุตร ขยำโคลนทำกุฎีสำเร็จด้วยดินล้วน ด้วยตนเอง แล้วรวบรวม
|
|
02,0002,13,หญ้าไม้และโคมัยมาเผากุฎีนั้น กุฎีนั้นงดงาม น่าดู น่าชม มีสีแดงเหมือน
|
|
02,0002,14,แมลงค่อมทอง มีเสียงเหมือนเสียงกระดึง.
|
|
02,0002,15, ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จลงจากภูเขาคิชฌกูฏพร้อมด้วยภิกษุ
|
|
02,0002,16,เป็นอันมาก ทอดพระเนตรเห็นกุฎีนั้นงดงามน่าดูน่าชมมีสีแดง ครั้งแล้ว
|
|
02,0002,17,จึงตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นั่นอะไร งดงาม น่าดู
|
|
02,0002,18,น่าชม มีสีแดงเหมือนแมลงค่อมทอง ครั้นภิกษุเหล่านั้นกราบทูลให้ทรงทราบ
|
|
02,0002,19,แล้ว พระพุทธองค์ทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การกระทำของโมฆบุรุษ
|
|
02,0002,20,นั้น ไม่เหมาะ ไม่สม ไม่ควร มิใช่กิจของสมณะ ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำ
|
|
02,0002,21,ไฉนโมฆบุรุษนั้นจึงได้ขยำโคลนทำกุฎีสำเร็จด้วยดินล้วน ด้วยตนเองเล่า
|
|
02,0002,22,ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเอ็นดู ความอนุเคราะห์ความไม่เบียดเบียนหมู่สัตว์
|
|
|