File size: 4,298 Bytes
3c90236
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
Book,Page,LineNumber,Text
11,0026,001,ก่อนนั้นได้    เกินกว่านั้นไประลึกไม่ได้.    เขากล่าวอย่างนี้ว่า   ท่านพวก  
11,0026,002,เทวดาผู้มีใช่เหล่า   <B>ขิฑฑาปโทสิกะ</B>   ไม่หมกมุ่นอยู่ในความรื่นรมย์   คือ
11,0026,003,การสรวลเสและการเล่นหัวจนเกินเวลา.       เมื่อเทวดาพวกนั้นไม่พากัน
11,0026,004,หมกมุ่นอยู่ในความรื่นรมย์       คือการสรวลเสและการเล่นหัวจนเกินเวลา
11,0026,005,ก็ไม่หลงลืมสติ.     เพราะไม่หลงลืมสติ     เทวดาพวกนั้นจึงไม่จุติจากหมู่
11,0026,006,นั้น  เป็นผู้เที่ยง  ยั่งยืน   คงทน   มีความไม่แปรปรวนเป็นธรรมดา  จัก
11,0026,007,ตั้งอยู่เที่ยงเสมอไปอย่างนั้นทีเดียว.     ส่วนพวกเราได้เป็น<B>ขิฑฑาปโทสิกะ</B>
11,0026,008,หมกมุ่นอยู่ในความรื่นรมย์      คือการสรวลเสและการเล่นหัวจนเกินเวลา.
11,0026,009,เมื่อพวกเรานั้นพากันหมกมุ่นอยู่ในความรื่นรมย์    คือการสรวลเสและการ
11,0026,010,เล่นหัวจนเกินเวลา   ก็หลงลืมสติ.     เพราะหลงลืมสติ   พวกเราจึงจุติจาก
11,0026,011,หมู่นั้น  เป็นผู้ไม่เที่ยง  ไม่ยั่งยืน  มีอายุน้อย   มีจุติเป็นธรรมดา    ต้องมา
11,0026,012,เป็นอย่างนี้    ดังนี้.     ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย    นี้เป็นฐานะที่  ๒    ที่สมณ-
11,0026,013,พราหมณ์พวกหนึ่งอาศัยแล้ว      ปรารภแล้ว     จึงมีวาทะว่าบางอย่างเที่ยง
11,0026,014,บางอย่างไม่เที่ยง   บัญญัติอัตตาและโลก    ว่าบางอย่างเที่ยง    บางอย่างไม่
11,0026,015,เที่ยง.
11,0026,016,(๓๓)  ๕.๓  อนึ่ง ในฐานะที่ ๓ สมณพราหมณ์ผู้เจริญอาศัยอะไร
11,0026,017,ปรารภอะไร   จึงมีวาทะว่า   บางอย่างเที่ยง      บางอย่างไม่เที่ยง    บัญญัติ
11,0026,018,อัตตาและโลก   ว่าบางอย่างเที่ยง   บางอย่างไม่เที่ยง.
11,0026,019,ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย     มีเทวดาชื่อว่า<B>มโนปโทสิกะ.</B>      เทวดาพวก
11,0026,020,นั้นมักเพ่งโทษกันและกันเกินขอบเขต.      เมื่อเทวดาพวกนั้นเพ่งโทษกัน
11,0026,021,และกันเกินขอบเขต   ย่อมคิดมุ่งร้ายกันและกัน    เมื่อต่างคิดมุ่งร้ายกันและ
11,0026,022,กัน   จึงลำบากกายลำบากใจ   พากันจุติจากหมู่นั้น.   ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย